เกี่ยวกับซีพีเอฟ
เกี่ยวกับซีพีเอฟ
ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพบนมาตรฐานการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและกระบวนการทำงานที่รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
เกี่ยวกับซีพีเอฟ สำหรับบุคลากร
ธุรกิจ
ธุรกิจ ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สะอาดถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้
ภาพรวมธุรกิจ
บรรษัทภิบาล
บรรษัทภิบาล
พัฒนาการความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ทางธุรกิจและเติมเต็มความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าร่วมในระยะยาวอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
our mision
สารถึงผู้ถือหุ้น
บริษัทยังคงพยายามอย่างเต็มกำลังในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เพื่อเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนสัมพันธ์
นักลงทุนสัมพันธ์
บริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างผลตอบแทนด้วยความใส่ใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อันจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
นักลงทุนสัมพันธ์ ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ความยั่งยืน
เพื่อเสริมสร้าง “ศักยภาพและโอกาสการเติมโต“ สู่ “การสร้างคุณค่าร่วมกับทุกภาคส่วน“
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
sustainability
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
ซีพีเอฟขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักความรับผิดชอบต่อสังคมสู่ความยั่งยืนภายใต้ 3 เสาหลัก “อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่“
สื่อเผยแพร่
สื่อเผยแพร่
ศูนย์ข่าวสารซีพีเอฟ นำเสนอเรื่องราวครอบคลุมทั้งความยั่งยืน นวัตกรรม ข่าวสารอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ
สื่อเผยแพร่
media-center
สื่อเผยแพร่
ติดตามข่าวสารล่าสุด และเรื่องราวดีๆ จากซีพีเอฟได้ที่นี่
THAI
1

ลงทุนในธุรกิจผลิตและจําหน่ายอาหารแปรรูปในประเทศอินเดีย - มกราคม
Norfolk Foods (Private) Limited และ CPF (India) Private Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ซีพีเอฟถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 80.00 และร้อยละ 100.00 ลำดับ ได้จดทะเบียนจัดตั้ง CP Norfolk (India) Private Limited (“CP Norfolk (India)") ในประเทศอินเดีย เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจําหน่ายอาหารแปรรูป ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการครั้งนี้ส่งผลให้ CP Norfolk (India) มีสถานะเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของซีพีเอฟ

2

การจหน่ายเงินลงทุน ในบริษัทย่อย - มีนาคม
CPF Netherlands B.V. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ซีพีเอฟถือหุ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.99 ได้ขาย เงินลงทุนทั้งหมดที่ถืออยู่ใน CP Chozen Ltd. (“Chozen”) ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารในประเทศอังกฤษ หรือคิดเป็นร้อยละ 80 ของจํานวนหุ้นที่ออกและชําระแล้วของ Chozen ให้แก่นักลงทุนสัญชาติอังกฤษ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง แนวทางการดําเนินธุรกิจในประเทศอังกฤษ ซึ่งภายหลังการทํารายการเสร็จสิ้น Chozen และบริษัทย่อยได้สิ้นสุดสถานภาพ การเป็นบริษัทย่อยของซีพีเอฟ

3

การเข้าซือเครื่องหมายการค้า “FIVE STAR” - เมษายน
บริษัท ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์แอนด์ฟู้ดเชน จํากัด (“CPFRF”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ซีพีเอฟถือหุ้นทางอ้อมคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.99 เข้าทําสัญญาซื้อเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการ “FIVE STAR” ที่จดทะเบียนใน 12 ประเทศ จากบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จํากัด (“CPG”) เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจร้านอาหาร ภายใต้เครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการ “FIVE STAR”

4

การจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ - เดือนเมษายน
บมจ.ซีพีเอฟ โกลบอล ฟู้ด โซลูชั่น (“CPFGS”) ได้ร่วมกับ Uorki Co., Ltd. จัดตั้ง บริษัท ซีพี -อูโอริกิ จํากัด ในประเทศไทย เพื่อดําเนินธุรกิจนําเข้าและจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์  อาหารทะเล อาหารพร้อมปรุง และอาหารพร้อมทาน เช่น ซูชิจากประเทศญี่ปุ่น โดย CPFGS ถือหุ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60.00 และมีสถานภาพเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ของ ซีพีเอฟ

5

การเปลี่ยนสถานะของ Kalino Food AB จากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย - เดือนกันยายน
Kalino Food AB ซึ่งประกอบธุรกิจค้าเนื้อสัตว์และอาหารสําเร็จรูปในประเทศสวีเดน ได้เปลี่ยน สถานะจากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม เนื่องงจาก CPF Denmark A/S (“CPFDM”) ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มเติมจาก ผู้ถือหุ้นเดิม จํานวน 310 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 31.00 ของจํานวนหุ้นทั้งหมด ทําให้สัดส่วนการถือหุ้นของ CPFDM ใน Kalino Food AB เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 29.00 เป็นร้อยละ 60.00

6

การขายเงินลงทุน ในบริษัททีดําเนินธุรกิจไก่ครบวงจรในประเทศจีนให้กับบุคคลที่เกี่ยวโยงกันโดยบริษัทย่อย - ธันวาคม
CP Food Investment Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ซีพีเอฟถือหุ้นผ่าน C.P. Pokphand Co., Ltd. (“CPP”) ได้ขายเงินลงทุน ในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจไก่ครบวงจรในประเทศจีน จำนวน 4 บริษัท ให้แก่บริษัทย่อยของ CPG โดย ภายหลังการเข้าทํารายการ สัดส่วนการถือหุ้นของ CPP ในบริษัททั้ง 4 แห่งดังกล่าว ได้ลดลงจากร้อยละ 100.00 เป็น ร้อยละ 0.00 จนทําให้สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของ ซีพีเอฟ

พัฒนาการของบริษัทปี 2565
1

เมษายน
การกระจายหุ้นสามัญให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยเพื่อแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนในประเทศเวียดนาม
ในเดือนเมษายน 2565 C.P. Vietnam Corporation (CPV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทที่ซีพีเอฟถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 82.30 และประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมอาหารครบวงจรในประเทศเวียดนาม ได้ยื่นขอกระจายหุ้นสามัญให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อย เพื่อแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและดำเนินการกระจายหุ้นเสร็จสมบูรณ์ CPV จะดำเนินการขอจดทะเบียนเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ในลำดับถัดไป

2

ธันวาคม
ซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน 
ในเดือนธันวาคม 2565 คณะกรรมการบริษัทซีพีเอฟได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท โดยหุ้นสามัญที่จะซื้อคืนมีจำนวนไม่เกิน 200 ล้านหุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท) คิดเป็นร้อยละ 2.32 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ จําหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท และมีกำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 18 มิถุนายน 2566

พัฒนาการของบริษัทปี 2566
พัฒนาการของบริษัทปี 2564
1

เมษายน

บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (CPFTH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท สวนสมบูรณ์ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจปลูกพืชทางการเกษตรใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ในสัดส่วนร้อยละ 99.99 มูลค่าของรายการจำนวน 274 ล้านบาท เพื่อเป็นการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการเพาะปลูกพืชเกษตรที่เป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจบริษัท

2

มิถุนายน

ซื้อหุ้นสามัญ เพิ่มเติมใน C.P. Aquaculture (India) Private Limited (“CPA”)  ซีพีเอฟและบริษัทย่อยได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มเติมอีกร้อยละ 43 ของจํานวนหุ้นทั้งหมดของ C.P. Aquaculture (India) Private Limited (“CPA”) ทําให้สัดส่วนการถือหุ้น CPA จาก เดิมที่ถืออยู่ร้อยละ 31.70 เพิ่มขึนเป็นร้อยละ 75.00 และ CPA เปลี่ยนสถานะจากบริษัทร่วม เป็นบริษัทย่อยของซีพีเอฟ โดย CPA เป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศอินเดีย โดยประกอบธุรกิจหลักคือ ผลิตและจําหน่ายอาหารกุ้ง ฟาร์มเพาะฟักลูกกุ้ง และจําหน่ายกุ้งแปรรูป เป็นต้น

3

สิงหาคม

  • บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จํากัด (“CPM”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ซีพีเอฟถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 99.99 ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ  Consumer Package Commerce Co., Ltd. ที่ประกอบธุรกิจนําเข้าและจัดจําหน่าย ผลิตภัณฑ์อาหารในประเทศเกาหลีใต้ ส่งผลให้ Consumer Package Commerce Co., Ltd. มีสถานะเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ของซีพีเอฟ
     
  • ซีพีเอฟได้เข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท ออลล์ นาว แมนเนจเม้นท์ จํากัด (“AM”) ซึ่งประกอบธุรกิจการจัดการคลังสินค้าและโลจิสติกส์คิดเป็นร้อยละ 19.00 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมดของ AM โดย AM เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.997 ในบริษัท ออลล์นาว โลจิสติกส์จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดําเนินธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์
     
  • LLC RBPI Voronezh ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่จัดตั้งขึ้นใหม่ของซีพีเอฟ ได้เข้าซื้อธุรกิจสุกรในประเทศรัสเซีย ได้แก่ LLC Agro-Sojuz TS และ LLC Mjaso-Sojuz T ซึ่งถือเงินลงทุนทั้งหมดของบริษัทในกลุ่ม APK-Don ที่ประกอบธุรกิจเพาะปลูกพืชไร่ ผลิตอาหารสัตว์เพาะพันธุ์สุกร และฟาร์มสุกร ในเขต Belgorod และ Voronezh ของประเทศ รัสเซีย ส่งผลให้บริษัทดังกล่าวมีสถานะเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของซีพีเอฟ
4

กันยายน

CPF Poland S.A. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางตรงของ CPF ได้เข้าซื้อธุรกิจอาหารทะเลในประเทศโปแลนด์ ได้แก่ Fish Food sp. z o.o. และ MaxFish sp. z o.o. ที่ประกอบธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์อาหารทะเล และการค้าและจัดจําหน่าย ผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ส่งผลให้บริษัทดังกล่าวมีสถานะเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของซีพีเอฟ

 

5

ตุลาคม

  • PLANT-TEC Europe Sp. z o.o. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่จัดตั้งขึ้นใหม่ของ ซีพีเอฟ ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่ม ทุนของ Well Well Invest S.A. (“Well Well”)  คิดเป็นร้อยละ 50 ของทุนชําระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน ซึ่งประกอบธุรกิจ ผลิตภัณฑ์อาหารที่ทําจากพืชในประเทศโปแลนด์ ส่งผลให้บริษัทในกล่มุ Well Well มีสถานะเป็นการร่วมค้าของซีพีเอฟ
     
  • คณะกรรมการบริษัทของซีพีเอฟได้มีมติอนุมัติให้ CPF Investment Limited (“CPFI”) ดําเนินการนําหุ้นสามัญทั้งหมดของ CPP ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (“HKEX”) ตามขั้นตอนภายใต้มาตรา 99 ของ Companies Act แห่งประเทศเบอร์มิวดา (“โครงการ”) ทั้งนี้หุ้นสามัญของ CPP ได้ถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน HKEX ในวันที่ 18 มกราคม 2565 เรียบร้อยแล้ว โดยสัดส่วนการถือหุ้นสามัญใน CPP ของ CPFI เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ถืออยู่ร้อยละ 49.74 เป็นร้อยละ 75.00
     
  • โอนกิจการทั้งหมด ของบริษัท ซี.พี. รีเทล โฮลดิ้ง จํากัด  (“CPRH”) ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 20 % ให้แก่บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) (“MAKRO”) และได้รับค่าตอบแทนเป็นหุ้นสามัญของ MAKRO จำนวน 1,002 ล้านหุ้น
     
  • คณะกรรมการบริษัทซีพีเอฟได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ในวงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาท โดยหุ้นสามัญที่จะซื้อคืนมีจํานวนไม่เกิน 400 ล้านหุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท) คิดเป็นร้อยละ 4.65 ของจำนวนหุ้นสามัญที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท และมีกําหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืน ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 14 เมษายน 2565
6

ธันวาคม

  • การเสนอขายหุ้น MAKRO ของ CPM ให้แก่ประชาชนทั่วไป (Public Offering) จำนวน 66 ล้านหุ้น
พัฒนาการของบริษัทปี 2565
พัฒนาการของบริษัทปี 2563
1

คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นสามัญส่วนที่เหลือทั้งหมดใน Charoen Pokphand Holding (Malaysia) Sdn.Bhd. (CPHM) จากเดิมบริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 49.75% เพิ่มขึ้นเป็น 100% โดย CPHM ดำเนินธุรกิจไก่เนื้อครบวงจร ทั้งการผลิตอาหารสัตว์ เลี้ยงไก่ โรงงานแปรรูปเนื้อไก่และผลิตอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานในประเทศมาเลเซีย

2

คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้เข้าลงทุนในกลุ่มเทสโก้เอเชียในสัดส่วน 20% ผ่านบริษัทย่อย บริษัท ซี.พี. เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด (CPM) เพื่อประกอบธุรกิจค้าปลีกภายใต้โดยรายการเข้าซื้อเสร็จสิ้นในวันที่ 18 ธันวาคม 2563

3

คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อธุรกิจสุกรในประเทศจีนโดย Chaina Tai Investment Co., Ltd. (CTI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมในประเทศจีน เพื่อขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจสุกรครบวงจรในประเทศจีน โดยการเข้าซื้อได้เสร็จสิ้นในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 CP Foods Capital Limited เพื่อดำเนินกิจการลงทุนของกลุ่มบริษัท

พัฒนาการของบริษัทปี 2564
พัฒนาการของบริษัทปี 2562
1

ซีพีเอฟ เรสเทอรองท์ แอนด์ ฟู้ดเชน จำกัด (CPF RF) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ลงนามสัญญาซื้อหุ้นและร่วมลงทุนในหุ้นของบริษัท ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จำกัด (Dak Galbi) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในไทยที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารเกาหลีแบบผัดร้อน (Real Time Cooking) โดย CPF RF จะเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 60%
 

2

ลงทุนในประเทศแคนาดา เข้าถือหุ้นคิดเป็นร้อยละ 50.1 ของจำนวนหุ้นทุ้งหมดของ Hylife Group Holding Ltd. (“ HyLife”)  โดยถือเป็นกิจการร่วมค้าของ CPF และ Itochu Corporation ประกอบธุรกิจสุกรครบวงจรตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงสุกร จนถึงธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อสุกร ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง Hylife เป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อสุกรแช่เย็นจากประเทศแคนาดา ไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดพรีเมี่ยม

3

ลงทุนเปิดฟาร์มเลี้ยงกุ้งในประเทศสหรัฐอเมริกาจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ ชื่อ Homegrown Shrimp (USA) LLC. ทุนจดทะเบียน 6.6 ล้านเหรียญสหรัฐ CPF ถือหุ้นร้อยละ 100

4

ลงทุนในธุรกิจกุ้งศรีลังกา  เข้าถือหุ้นเพิ่มทุนในประเทศศรีลังกา เข้าถือหุ้นของ Lotus Aquaculture Lanka (Private) Ltd คิดเป็นร้อยละ75 ของทุนจดทะเบียน โดยประกอบธุรกิจโรงเพาะฟักลูกกุ้ง ฟาร์มกุ้ง และห้องเย็นในประเทศศรีลังกา

5

ลงทุนธุรกิจร้านอาหารในประเทศเวียดนาม เข้าซื้อเงินลงทุนของ AHM Lifestyles Creative Hospitally Co., Ltd. (“AHM”) คิดเป็นร้อยละ 70 ของทุนจดทะเบียนของ AHM ประกอบธุรกิจร้านอาหารในประเทศเวียดนาม โดยมีจุดขายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

6

จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่เพื่อลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศโปแลนด์จัดตั้ง PetRepublic Ltd. (“PetRepublic”)  ในประเทศโปแลนด์ เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง

พัฒนาการของบริษัทปี 2563
พัฒนาการของบริษัทปี 2561
1

มิถุนายน

ร่วมลงทุนในธุรกิจฟาร์มกุ้งและแปรรูปกุ้งในประเทศบราซิล

เข้าซื้อหุ้นสามัญบริษัท Camanor Produtos Marinhos Ltda. (“Camanor”) คิดเป็นร้อยละ 40 ของหุ้น ที่มีสิทธิออกเสียงของบริษัท Camanor  ซึ่งดำเนินธุรกิจฟาร์มกุ้งและแปรรูปกุ้งขึ้นต้นในประเทศบราซิล 

2

กรกฎาคม

ร่วมลงทุนธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ในประเทศไทย

เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซีพี ไห่หลาย ฮาร์เบอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ มีสัดส่วนการถือหุ้นคิดเป็นร้อยละ 5 ร่วมกับนิติบุคคลไต้หวันร้อยละ 45 และบุคคลธรรมดาร้อยละ 4 และบุคคลธรรมดาร้อยละ 4  โดยจะดำเนินธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ แบรนด์ “Harbour”  ที่ไอคอนสยาม จังหวัดกรุงเทพฯ ในประเทศไทย

3

กันยายน

เปิดโรงเรียนศิลปะการอาหาร “คูลิเนอร์”

CULINEUR School of Culinary Arts and Entrepreneurship

โรงเรียนด้านศิลปะการอาหารที่เพื่อสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและผู้ประกอบการที่จะก้าวไปสู่มืออาชีพระดับโลก รวมถึงสร้างหัวหน้าครัวหรือเชฟที่สามารถเป็นผู้นำและเจ้าของกิจการที่มีคุณภาพ 

4

พฤศจิกายน

ลงทุนใน FSI  ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตพิซซ่าแบบทานเล่น ในประเทศสหรัฐอเมริกา

เพื่อประกอบธุรกิจผลิตพิซซ่าแบบแช่แข็ง และพิซซ่าแบบทานเล่น (Pizza Bite) โดยจำหน่ายผ่านช่องทางค้าส่งและผู้ค้าปลีกในทวีปอเมริกาเหนือ รวมถึงผลิตภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (Private Label)

พัฒนาการของบริษัทปี 2562
พัฒนาการของบริษัทปี 2560
1

"ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดใน Westbridge Food Group Limited (WFGL) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในประเทศอังกฤษ โดยกลุ่ม WFGL ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายเนื้อสัตว์และอาหารสำเร็จรูป ให้กับลูกค้าที่เป็นร้านค้าปลีก ฟู้ดเซอร์วิส โรงงานผลิตอาหารในสหราชอาณาจักร รวมทั้งกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป 


การได้เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใน WFGL จะทำให้ซีพีเอฟสามารถขยายเครือข่ายช่องทางการค้าปลีก ฟู้ดเซอร์วิส และกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิตสินค้าอาหารในสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปซึ่งมีศักยภาพสูง โดยสินค้าของ WFGL เป็นสินค้าประเภทไก่ กุ้ง ปลา และอาหารสำเร็จรูป ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจของซีพีเอฟ ตลอดจนซีพีเอฟยังได้โควต้าการนำเข้าสินค้าไก่สู่สหภาพยุโรปจากการที่ WFGL มีบริษัทย่อยที่ได้รับโควต้าการนำเข้ามากกว่า 100 แห่ง นอกจากนี้ WFGL ยังมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูงในธุรกิจการค้าสินค้าอาหารอีกด้วย http://www.westbridgefoods.com/"

2

"ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญ 95% ของบริษัท Paulsen Foods GmbH (PF) ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายเนื้อสัตว์ให้กับลูกค้าฟู้ดเซอร์วิส และผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิตสินค้าอาหารในประเทศเยอรมนี รวมทั้งกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป และมีการลงทุนในบริษัทจำนวน 76 แห่งในประเทศเยอรมนี ซึ่งมีโควต้านำเข้าเนื้อสัตว์ปีกและสินค้าที่ทำจากเนื้อสัตว์ปีกสู่สหภาพยุโรป


การได้เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใน PF จะทำให้กลุ่มซีพีเอฟมีโควต้าการนำเข้าสัตว์ปีกและสินค้าที่ทำจากเนื้อสัตว์ปีกสู่สหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นประมาณ 6,100 ตันต่อปี นอกจากนี้ ยังทำให้กลุ่มซีพีเอฟมีช่องทางการจัดจำหน่ายให้แก่ฟู้ดเซอร์วิสและผู้ประกอบการที่เป็นผู้ผลิตสินค้าอาหารในประเทศเยอรมนี และกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่จะจัดจำหน่ายจะเป็นสินค้าเนื้อสัตว์ปีกจำพวกไก่และเป็ด ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจของกลุ่มซีพีเอฟ http://www.peter-paulsen.de/"

พัฒนาการของบริษัทปี 2561
พัฒนาการของบริษัทปี 2559
1

ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญ 100% ของบริษัท Hubei Chia Tai Co., Ltd. ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ พันธุ์สัตว์ และอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์ในประเทศจีน

2

ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 30% ของหุ้นสามัญที่ออกจำหน่ายแล้วหลังการเพิ่มทุน ของบริษัท Banner Infant Dairy Products Co., Ltd. ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายนมผงสำหรับทารกในประเทศจีน

3

 

ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 12% ของหุ้นสามัญที่ออกจำหน่ายแล้วหลังการเพิ่มทุน ของบริษัท Qingdao Yi Bang Bio-Engineering Co., Ltd. ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัคซีนสำหรับสัตว์ในประเทศจีน

4

ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 80% ของบริษัท Norfolk Foods (Private) Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศศรีลังกา ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทาน เช่น ซาโมซ่า ไก่แปรรูป เนื้อสัตว์สอดไส้ชีส และไส้กรอก เป็นต้น ภายใต้ตราสินค้า Crescent โดยมีการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย โรงแรม ร้านอาหาร และร้านค้าปลีกในประเทศศรีลังกา ทำให้บริษัทเข้าสู่ธุรกิจอาหารที่มีศักยภาพในการเติบโต ตลอดจนเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศใกล้เคียง http://www.norfolk.lk/

5

ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 60% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วของบริษัท The Foodfellas Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศอังกฤษ ประกอบธุรกิจฟู้ดเซอร์วิส โดยนำเข้าวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์อาหารจากทั่วโลก เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ ไส้กรอก ขนมปัง เบเกอรี่ มันฝรั่ง อะโวคาโด โดยจัดจำหน่ายให้ลูกค้ามากกว่า 160 ราย โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารที่รู้จักกันทั่วไปซึ่งมีสาขาทั่วประเทศอังกฤษมากกว่า 15,000 ร้าน ทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจฟู๊ดเซอร์วิสในประเทศอังกฤษได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเป็นฐานในการขยายธุรกิจในประเทศอื่นๆ ในยุโรป http://www.thefoodfellas.co.uk/

6

ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 70% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้ว ของบริษัท Fujian Sumpo Foods Holding Co., Ltd. ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์บก เลี้ยงและจำหน่ายไก่ และผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ในประเทศจีน

7

ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 100% ของบริษัท Bellisio Parent, LLC ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานแบบ Single Serve ในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ภายใต้ตราสินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป เช่น Michelina’s, Boston Market, Chilli’s และ Atkins ซึ่งจะทำให้ CPF เข้าสู่ตลาดธุรกิจอาหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายของ CPF ในทวีปอเมริกาเหนือ ผ่านเครือข่ายกระจายสินค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ http://www.bellisiofoods.com/

8

ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 16.54% ของหุ้นสามัญที่ออกจำหน่ายแล้วหลังการเพิ่มทุน ของบริษัท Ningxia Xiao Ming Animal Husbandry Co., Ltd. ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายลูกไก่ไข่ในประเทศจีน

9

 

ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 100% ของบริษัท COFCO Meat (Suqian) Co., Ltd. ซึ่งประกอบธุรกิจเลี้ยงไก่เนื้อและธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ในประเทศจีน

10

ประกาศเข้าซื้อหุ้นสามัญและหุ้นสามัญเพิ่มทุนรวมทั้งสิ้นจำนวน 33% ของบริษัท SuperDrob Zakłady Drobiarsko - Mięsne S.A. ซึ่งประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารในประเทศโปแลนด์ มีผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ไก่สด ไก่แปรรูปปรุงสุก ไส้กรอก และแฮม ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท การเข้าร่วมทุนกับ SuperDrob จะทำให้ซีพีเอฟขยายฐานการผลิตเพื่อตลาดกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป http://superdrob.pl/en/

พัฒนาการของบริษัทปี 2560
พัฒนาการของบริษัทปี 2558
1

เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท CP Chozen Limited (CP Chozen) จำนวน 80%ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วของ CP Chozen ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศอังกฤษประกอบธุรกิจร้านอาหารในลักษณะของซุ้มอาหารในประเทศอังกฤษ

2

เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท CJSCPoultry Production Severnayaและบริษัท CJSC Poultry ParentStock Production Woyskovitsy (Severnaya and Woyskovitsy) จำนวน 80% ของหุ้นสามัญที่ออกและ ชำระแล้วของ Severnayaand Woyskovitsy ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศรัสเซียประกอบธุรกิจไก่เนื้อครบวงจร

3

 

เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท C.P. Cambodia Co., Ltd. (CPC) จำนวน 75% ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วของ CPC ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศกัมพูชา ประกอบธุรกิจสัตว์บกครบวงจร

พัฒนาการของบริษัทปี 2559
พัฒนาการของบริษัทปี 2557
1

เข้าซื้อเงินลงทุนทั้งหมด ใน Hefei Chia Tai Co., Ltd. และ Kaifeng Chia Tai Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งในประเทศจีน ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ในประเทศจีน

2

 

เข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 80.02% ของ Tops Foods NV ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียน จัดตั้งในเบลเยี่ยม ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานทั้งแบบแช่เย็น (Chilled) และแบบไม่ต้อง แช่เย็น (Ambient) โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตระบบไมโครเวฟ (Microwave System)

3

 

เข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 29.00% ของ BHJ Kalino Food AB ซึ่งเป็นบริษัทที่ จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศสวีเดน ประกอบธุรกิจการค้าเนื้อสัตว์และอาหารสำเร็จรูปแช่เย็นและแช่แข็งในประเทศสวีเดน

4

ขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ C.P. Pokphand Co., Ltd. จำนวน 25.00% ให้แก่ ITOCHU Corporation ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว

5

 

ออกและเสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์ (Exchangeable Bonds) มูลค่ารวม 290.4 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่นักลงทุนในต่างประเทศ โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

พัฒนาการของบริษัทปี 2558
พัฒนาการของบริษัทปี 2556
1

ลงทุนในบริษัท Russia Baltic Pork Invest ASV ซึ่งถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจสุกรในประเทศรัสเซีย

2

ลงทุนในบริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ทำจากนมภายใต้ตราสินค้า “เมจิ” และ “เมจิ-ไพเกน”

3

ลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปอาหารสำเร็จรูปจากเนื้อสัตว์ และอาหารพร้อมรับประทานในประเทศจีนโดยการลงทุนดังกล่าวเป็นการขยายธุรกิจของ C.P. Pokphand Co., Ltd.ไปสู่ธุรกิจอาหาร

พัฒนาการของบริษัทปี 2557
พัฒนาการของบริษัทปี 2555
1

เริ่มดำเนินธุรกิจศูนย์อาหารในประเทศไทยภายใต้ชื่อ “ซีพี ฟู้ดเวิลด์”

2

เข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 99.99% ของบริษัท เชสเตอร์ฟู้ด จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย

 

3

 

เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 74.18% ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์ในประเทศจีนและเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารในประเทศเวียดนาม

4

 

เข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 99.99% ของบริษัทในประเทศมาเลเซีย ซึ่งประกอบธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสุกรโรงชำแหละสุกร และร้านค้าปลีกในประเทศ

พัฒนาการของบริษัทปี 2556
พัฒนาการของบริษัทปี 2554
1

เริ่มดำเนินธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “ซีพี คิทเช่น”

2

เริ่มดำเนินธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบซูเปอร์คอนวีเนียนสโตร์ ภายใต้ชื่อ “ซีพี เฟรชมาร์ท พลัส”

3

เข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 25% ของบริษัทในประเทศกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ เลี้ยงสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์

พัฒนาการของบริษัทปี 2555
พัฒนาการของบริษัทปี 2553
1

ปรับย้ายหมวดธุรกิจจากหมวด “ธุรกิจการเกษตร” เป็นหมวด “ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม” ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

พัฒนาการของบริษัทปี 2554
พัฒนาการของบริษัทปี 2552
1

เข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 32% ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ เลี้ยงสัตว์และอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์

พัฒนาการของบริษัทปี 2553
พัฒนาการของบริษัทปี 2550
1

ลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์และฟาร์มเลี้ยงสัตว์

พัฒนาการของบริษัทปี 2552
พัฒนาการของบริษัทปี 2549
1

เริ่มผลิตและจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานภายใต้เครื่องหมายการค้าซีพี ออกจำหน่ายในประเทศไทยและต่างประเทศ

2

ลงทุนในประเทศลาวซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายอาหารสัตว์บก และเลี้ยงสัตว์บก

3

ลงทุนในประเทศรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์บกและเลี้ยงสัตว์บก

4

เริ่มดำเนินธุรกิจค้าปลีกที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสด อาหารปรุงสุกและอาหารพร้อมรับประทานภายใต้ชื่อ “ซีพี เฟรชมาร์ท”

พัฒนาการของบริษัทปี 2550
พัฒนาการของบริษัทปี 2548
1

ลงทุนในประเทศมาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจกุ้งครบวงจร

2

เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทในประเทศอินเดียจาก 19.0% เป็น 71.2% ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์และเลี้ยงสัตว์ในประเทศอินเดีย

3

ซื้อธุรกิจจุดขายอาหารสำเร็จรูปภายใต้ชื่อ “ห้าดาว” ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจจุดขายอาหารในรูปแบบแฟรนไชส์

พัฒนาการของบริษัทปี 2549
พัฒนาการของบริษัทปี 2547
1

ลงทุนในประเทศตุรกีซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์บกและธุรกิจไก่ครบวงจร

พัฒนาการของบริษัทปี 2548
พัฒนาการของบริษัทปี 2545
1

ลงทุนในประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายอาหารสัตว์และฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

2

ลงทุนในประเทศอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจ ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารแช่เย็นจำหน่ายในสหภาพยุโรป

พัฒนาการของบริษัทปี 2547
พัฒนาการของบริษัทปี 2542
1

เปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน)” พร้อมกับประกาศวิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” (Kitchen of the World)

2

เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัทจำกัดที่ดำเนินธุรกิจ เกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของเครือ เจริญโภคภัณฑ์จำนวน 9 แห่ง ส่งผลให้กลุ่ม บริษัทซีพีเอฟ มีการดำเนินธุรกิจสัตว์บกและสัตว์น้ำ แบบครบวงจรครอบคลุมไปทั่วทุกภาคของประเทศ

พัฒนาการของบริษัทปี 2545
พัฒนาการของบริษัทปี 2541
1

เข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัทมหาชนจำกัด ที่ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในประเทศไทย จำนวน 3 แห่ง

พัฒนาการของบริษัทปี 2542
พัฒนาการของบริษัทปี 2537
1

แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด

พัฒนาการของบริษัทปี 2541
พัฒนาการของบริษัทปี 2530
1

นำหุ้นสามัญเข้าเป็นหลักทรัพย์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใต้ชื่อย่อว่า “CPF”

พัฒนาการของบริษัทปี 2537
พัฒนาการของบริษัทปี 2521
1

จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในนาม “บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารสัตว์ จำกัด” เพื่อผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ ในเขตภาคใต้ของประเทศไทย

พัฒนาการของบริษัทปี 2530
cpfworldwide.com ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)
x