ธุรกิจห้าดาว ซีพีเอฟ ได้มีส่วนร่วมสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนไทยเป็นเจ้าของธุรกิจมา ตลอดระยะเวลา 15 ปี จนถึงปัจจุบันห้าดาวได้สร้างผู้ประกอบการคนไทย เป็น “เถ้าแก่เล็ก” ห้าดาวกว่า 5 พันรายทั่วประเทศ

นายสถิต สังขนฤบดี รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ผู้ดูแลธุรกิจห้าดาว และธุรกิจร้านอาหาร กล่าวว่า ซีพีเอฟ ได้เริ่มดำเนินธุรกิจห้าดาวตั้งแต่ปี 2528 ต่อมาในปี 2543 ธุรกิจห้าดาวได้เปิดโอกาสให้คนไทยที่ต้องการเริ่มธุรกิจของตัวเอง สามารถเริ่มธุรกิจได้ด้วยทุนไม่สูง โดยบริษัทช่วยสนับสนุนการศึกษาทำเลที่ขาย ซุ้มร้านพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือที่ร้าน  รวมถึงการฝึกอบรมก่อนเปิดร้าน และถ่ายทอดทักษะการบริหารร้านกับผู้ประกอบการก่อนเปิดร้าน และตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ ห้าดาวมีการพัฒนาเมนูใหม่ๆ รวมถึงสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการขาย บริษัทจัดเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบคุณภาพของร้าน   สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้ที่ต้องการเข้ามาเป็นเจ้าของซุ้มห้าดาวได้เริ่มต้นธุรกิจอย่างมั่นใจว่าจะอาชีพนี้จะช่วยสร้างเงินสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว และ เป็น “เถ้าแก่เล็ก” มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  

นายอารมณ์ ชัยระงับ เป็นหนึ่งตัวอย่างของ “เถ้าแก่เล็ก” ห้าดาวที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจและการเป็นผู้ถ่ายทอดทักษะผู้ที่จะเป็น “เถ้าแก่เล็ก” รุ่นใหม่ เล่าย้อนหลังว่า ตนเองเป็นคนจังหวัดเพชรบูรณ์ เริ่มต้นอาชีพค้าขายตั้งแต่อายุ 21 ปี เปิดร้านขายข้าวขาหมูที่จังหวัดเชียงราย แต่เพื่ออนาคตที่ดีขึ้นจึงตัดสินใจปิดร้านและย้ายครอบครัวมาอยู่ที่กรุงเทพเพื่อช่วยญาติดูแลร้านไก่ทอดแฟรนไชส์ยี่ห้อหนึ่ง พอได้เห็นการทำงานของซุ้มห้าดาวที่อยู่ติดกันกับซุ้มขายของตนเองแล้วเห็นว่ามีการจัดการที่เป็นขั้นตอนและแตกต่างจากแฟรนไชส์ยี่ห้ออื่น จึงตัดสินใจสมัครมาทำธุรกิจร้านห้าดาวตั้งแต่ปี 2549 เริ่มแรกขายไก่ย่างห้าดาวในพื้นที่ที่บริษัทเลือกให้ ในที่สุดเปลี่ยนให้มาขายที่สโมสรสวัสดิการทหารเรือจนถึงปัจจุบัน 

“การเริ่มต้นธุรกิจห้าดาวไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนสูงมาก ตอนนั้นใช้เงินประมาณ 15,000 บาทเท่านั้น เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียนสำหรับซื้อวัตถุดิบและค่าเช่าพื้นที่ ส่วนซุ้มทางบริษัทเป็นผู้ออกแบบและช่วยค่าใช้จ่าย เราจ่ายเพียงค่าประกันอุปกรณ์ 3,000 บาทเท่านั้น ทุกคนต้องผ่านการฝึกปฏิบัติจริงประมาณ 5-7 วันและต้องผ่านการทดสอบตามมาตรฐานของบริษัท รวมทั้งการประเมินจากครูฝึกก่อน ตลอดระยะเวลาการขายมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทตรวจประเมินการรักษามาตรฐานของซุ้มขายอย่างต่อเนื่อง” นายอารมณ์กล่าว

นายอารมณ์ยังเล่าต่ออีก ด้วยพื้นฐานเป็นคนชอบความสะอาดและระเบียบอยู่แล้ว จึงปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริษัทอย่างเคร่งครัดในเรื่องการรักษาคุณภาพและความสดของวัตถุดิบ การรักษาความสะอาดของตู้ขาย โดยบริษัทส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจประเมินการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของซุ้มห้าดาวเป็นประจำทุกเดือนพร้อมให้คำแนะนำ พร้อมกับมีรางวัลแก่ผู้ที่ผ่านการประเมิน ซึ่งคุณอารมณ์บอกอย่างภาคภูมิใจว่าตลอด 9 ปีที่ผ่านมาซุ้มขายห้าดาวของเค้าได้รับการประเมินด้วยคะแนนสูงสุดมาโดยตลอด และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่บริษัทเห็นแววและชักชวนคุณอารมณ์เป็นผู้ฝึกคนที่จะมาเป็นเจ้าของซุ้มห้าดาวรายใหม่ๆ 

“ผมเริ่มเป็นครูฝึก “เถ้าแก่เล็ก” ห้าดาว ตั้งแต่ปี 2550 ตอนแรกๆ ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าจะทำได้ แต่บริษัทให้กำลังใจว่าผมมีความสามารถ และส่งผมมาฝึกการเป็น Trainer กับเจ้าหน้าที่ของบริษัท หลังจากนั้น บริษัทจะส่งผู้ที่สนใจมาฝึกงานที่ร้านทุกเดือน แนวการการฝึกของผมคือให้ลงมือทำจริง เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และคำแนะนำจากผู้ที่ผ่านงานจริงเป็นหลัก”
อารมณ์ยังเสริมว่า การทำธุรกิจห้าดาวไม่เพียงแต่ช่วยให้ตนสามารถสร้างฐานะครอบครัวให้เติบโตอย่างมั่นคง ตนยังสามารถเป็นไทจากเงินกู้นอกระบบที่นำมาใช้ในครอบครัวภายใน 3 ปี มีเงินเก็บให้ลูกและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดี ลูกทั้งสามคนจบการศึกษาและทำงานเลี้ยงตัวเองได้ทุกคน และภูมิใจที่ได้นำเงินเก็บช่วยลูก 2 คนเปิดร้านคอมพิวเตอร์และขายโทรศัพท์ที่กรุงเทพ และเพชรบูรณ์ ส่วนลูกคนสุดท้องเป็นทหารประจำอยู่จังหวัดยะลา

“หัวใจความสำเร็จของ “เถ้าแก่เล็ก” อยู่ที่ความขยัน ดูแลเอาใจใส่ รักษาความสะอาดและคุณภาพของสินค้า ซื่อสัตย์กับลูกค้า ให้ลูกค้าได้รับสินค้ารสชาติอร่อย สะอาด และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป นอกจากนี้ จุดแข็งของห้าดาว ยังเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า วัตถุดิบของห้าดาวมีคุณภาพ สะอาดผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ดังนั้น จึงไม่ต้องสงสัยว่า ห้าดาวจะช่วยสร้างเงินสร้างฐานะของ“เถ้าแก่เล็ก” ได้อย่างมั่นคง” นายอารมณ์ย้ำ

อารมณ์ในวัย 55 ปี บอกว่าแม้จะทุกวันนี้จะประสบความสำเร็จจากการเป็น “เถ้าแก่เล็ก” ลูกๆ สามารถดูแลตัวเองได้  แต่ตัวเองยังคงตั้งใจที่จะทำร้านห้าดาวต่อไป และสานต่ออาชีพให้กับหลานที่สนใจทำธุรกิจ “ห้าดาว” เหมือนตนเอง พร้อมกับการทำหน้าที่เป็นครูฝึกของห้าดาวเพื่อช่วยผลิต “เถ้าแก่เล็ก” ห้าดาวที่มีคุณภาพต่อไป
ห้าดาวยังได้นำโมเดลความสำเร็จของ “เถ้าแก่เล็ก” ห้าดาว 5 พันรายทั่วประเทศไทย ไปขยายต่อสร้างเถ้าแก่เล็กในทุกประเทศที่มีธุรกิจห้าดาว อาทิ เวียดนาม อินเดีย เป็นต้น./