

นายสถิต สังขนฤบดี รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สายธุรกิจห้าดาวและธุรกิจอาหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจห้าดาวได้นำโมเดลร้านรูปแบบใหม่ เรียกร้าน Five Star ภายใต้แนวคิดธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (Quick Service Restaurant) ของชุมชน มุ่งขยายฐานลูกค้าระดับกลางถึงระดับบน ตั้งเป้าปีนี้เพิ่ม 50 สาขาทั่วประเทศไทย
รูปแบบของร้าน Five Star (ไฟฟ์สตาร์) ที่ปรับใหม่จะเปลี่ยนรูปโฉมจากซุ้มห้าดาวเดิมที่นำเสนอสินค้าในหมวดเดียวกันและเป็นการซื้อกลับบ้าน มาเป็นร้านค้าสไตล์ฟาสต์ฟู้ดส์ขนาดเล็กที่มีพื้นที่ประมาณ 20 – 50 ตารางเมตร พร้อมบริการที่นั่งในร้าน นำเสนอที่เมนูอาหารที่คัดสรรของห้าดาวรวม 20 เมนู อาทิ เมนูข้าว ไก่ทอด ของทานเล่นพร้อมเครื่องดื่มรองรับความต้องการของลูกค้าได้ภายในจุดเดียว
“ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป มีต้องการความสะดวกสบายและความรวดเร็วขึ้น ร้าน Five Star รูปแบบใหม่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้มากขึ้น ลูกค้าสามารถเลือกนั่งรับประทานที่ร้าน หรือซื้อกลับไปทานที่บ้านก็ได้ ซึ่งสามารถขยายฐานลูกค้าจากปัจจุบันที่เป็นผู้บริโภคระดับกลางถึงระดับล่าง มาเป็นลูกค้าระดับกลางถึงระดับบนได้เพิ่มขึ้น” นายสถิตกล่าว
นายสถิตกล่าวต่อว่า กลยุทธ์การขยายร้าน Five Star ที่เป็นร้านอาหารบริการด่วนของชุมชนจะให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้ง ต้องอยู่ในแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ที่มีความต้องการบริโภคร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์จำนวนมาก เช่น สนามบิน โรงพยาบาล ศูนย์อาหาร มหาวิทยาลัย ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น ทั้งนี้ ธุรกิจห้าดาวเองยังเตรียมผลักดันร้าน Five Star เข้าไปตั้งในห้างโมเดิร์นเทรดอีกด้วย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงร้านโมเดลใหม่ได้มากยิ่งขึ้น
“จุดแข็งของร้าน Five Star อยู่ตรงที่มีเมนูอาหารให้ผู้บริโภคที่หลากหลายพร้อมเครื่องดื่มเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้อาหารของ Five Star ใช้วัตถุชั้นดีมาตรฐานการผลิตเพื่อการส่งออก และโดดเด่นทั้งความอร่อยและความสะอาด คุ้มค่า คุ้มราคา ลูกค้าทุกระดับยังมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าด้วยระบบการตรวจสอบย้อนกลับตลอดทั้งกระบวนการผลิต” นายสถิตกล่าว
ธุรกิจห้าดาวได้ขยายร้านโมเดลใหม่ในประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี 2558 แล้ว ปัจจุบันนี้ร้าน Five Star 20 แห่งกระจายอยู่ในกรุงเทพและต่างจังหวัด เช่น สนามบินนานาชาติกระบี่ โรงพยาบาลรามาธิบดี เป็นต้น และจะขยายร้าน Five Star เพิ่มขึ้นเป็น 50 แห่งภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้จะนำโมเดลใหม่นี้ไปขยายในต่างประเทศ ทั้งเมียนมาร์ เวียดนาม อินเดีย บังคลาเทศ กัมพูชา และลาวต่อไป เพื่อให้ร้านโมเดลใหม่ของห้าดาวมีรูปแบบเดียวกันทั่วโลก
แนวทางในการขยายร้านโมเดลใหม่ ยังคงเป็นรูปแบบแฟรนไชส์ เพื่อร่วมสร้างผู้ประกอบการธุรกิจห้าดาว หรือ “เถ้าแก่เล็ก” ส่วนงบลงทุนสำหรับร้านโมเดลใหม่เริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 4-6 แสนบาทขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของร้าน สำหรับซุ้มห้าดาวที่มีอยู่เดิมสามารถขยายเป็นโมเดลร้านแบบใหม่ได้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับ ทำเลที่ตั้งของร้าน ความพร้อมของพื้นที่และเจ้าของธุรกิจอีกด้วย โดยบริษัทจะสนับสนุนการฝึกอบรมแก่เจ้าของธุรกิจเพื่อเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างถูกต้อง การร่วมคัดเลือกทำเล การออกแบบตกแต่งร้าน การให้ยืมอุปกรณ์ปรุงอาหาร ตู้เย็น เป็นต้น