เกี่ยวกับซีพีเอฟ
เกี่ยวกับซีพีเอฟ
ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพบนมาตรฐานการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและกระบวนการทำงานที่รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
เกี่ยวกับซีพีเอฟ สำหรับบุคลากร
ธุรกิจ
ธุรกิจ ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สะอาดถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้
ภาพรวมธุรกิจ
บรรษัทภิบาล
บรรษัทภิบาล
พัฒนาการความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ทางธุรกิจและเติมเต็มความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าร่วมในระยะยาวอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
our mision
สารถึงผู้ถือหุ้น
บริษัทยังคงพยายามอย่างเต็มกำลังในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เพื่อเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนสัมพันธ์
นักลงทุนสัมพันธ์
บริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างผลตอบแทนด้วยความใส่ใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อันจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
นักลงทุนสัมพันธ์ ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ความยั่งยืน
เพื่อเสริมสร้าง “ศักยภาพและโอกาสการเติมโต“ สู่ “การสร้างคุณค่าร่วมกับทุกภาคส่วน“
sustainability
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
ซีพีเอฟใช้นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความเป็นเลิศควบคู่ไปกับสร้างความยั่งยืนเพื่อโลกที่ดีกว่าของคนรุ่นถัดไปภายใต้กลยุทธ์ นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Sustainovation)
สื่อเผยแพร่
สื่อเผยแพร่
ศูนย์ข่าวสารซีพีเอฟ นำเสนอเรื่องราวครอบคลุมทั้งความยั่งยืน นวัตกรรม ข่าวสารอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ
สื่อเผยแพร่
media-center
สื่อเผยแพร่
ติดตามข่าวสารล่าสุด และเรื่องราวดีๆ จากซีพีเอฟได้ที่นี่
THAI
ซีพีเอฟ อินเดีย ร่วมมือภาครัฐและหน่วยงานประมงของอินเดีย ลงนาม MoU นำร่องโครงการพัฒนาประมงตามมาตรฐาน IFFO
11 ส.ค. 2560
ซีพีเอฟ อินเดีย ร่วมมือภาครัฐและหน่วยงานประมงของอินเดีย ลงนาม MoU นำร่องโครงการพัฒนาประมงตามมาตรฐาน IFFO

อินเดีย :10 สิงหาคม 2560 – 6 สมาคมประมงและภาคอุตสาหกรรมประมงที่เกี่ยวข้องของอินเดีย ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจเปิดตัวโครงการพัฒนาประมง (Fishery Improvement Project หรือ FIP) นับเป็นครั้งแรกในการนำร่องแนวทางปฏิบัติเพื่อการรณรงค์การอนุรักษ์ห่วงโซ่การผลิตและระบบนิเวศทางทะเลอย่างยั่งยืนของประเทศอินเดีย ที่มุ่งปรับปรุงพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันตกตั้งแต่เมืองกัวถึงเมืองรัตนคีรี

 

สมาคมประมงและภาคเอกชนที่ร่วมลงนามใน MoU ครั้งนี้ประกอบด้วย Ratnadurga Macchimar Society, Adarsh Machchimar Society บริษัทสหกรณ์ประมงและการตลาดมันโนวี จำกัด บริษัทสหกรณ์เจ้าของเรือประมงขนาดเล็กและการตลาดวาสโก้ จำกัด บริษัทสหกรณ์ประมงและการตลาดซูอาริ จำกัด สมาคมเจ้าของเรือเพื่อการพัฒนาคัตแบน บริษัทโอเมก้าปลาป่นและน้ำมัน จำกัด และบริษัท ซีพีเอฟ อินเดีย จำกัด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคประมงทั้งจากรัฐบาลอินเดียและองค์กรเอกชน (NGO) เช่น กรมประมง สถาบันวิจัยประมงกลาง มหาวิทยาลัยรัตนคีรี รวมถึงผู้แทนจากโครงการหุ้นส่วนการประมงอย่างยั่งยืน (Sustainable Fisheries Partnership หรือ SFP) เป็นสักขีพยานในการลงนามครั้งนี้

 

การเปิดตัวโครงการ FIP ให้ความสำคัญกับการจับปลาซาร์ดีนและการผลิตน้ำมันปลาตามแนวชายฝั่งทะเลทางตะวันตกตั้งแต่เมืองรัตนคีรีถึงเมือง โดยมุ่งการปรับปรุงประสิทธิภาพการจับปลาและการจัดการ ด้วยความโปรงใสตามแนวทางอาหารปลอดภัย รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต สอดคล้องกับมาตรฐานสากล


นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังดำเนินการตามแนวทางองค์กรปลาป่นและน้ำมันปลาสากล (International Fishmeal and Fish Oil Organization หรือ IFFO) ของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่ไม่หวังผลประโยชน์และเป็นตัวแทนผู้ผลิตปลาป่นและน้ำมันปลาทั่วโลก โดยมีวิสัยทัศน์ในการเพิ่มความสำคัญในประเด็นโภชนาที่ดีต่อสุขภาพของมนุษย์และสวัสดิภาพปศุสัตว์เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคทั่วโลก ขณะเดียวกัน IFFO ยังเป็นองค์กรที่ให้การรับรองแนวทางปฎิบัติความรับผิดชอบในการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืนเพื่อใช้ในการผลิตปลาป่นและน้ำมันปลาซึ่งใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเป็นอาหารมนุษย์ อาหารสัตว์น้ำ และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ

 

นายแซนเดส เซิร์ฟ ประธานกรรมการของ Ratnadurga Macchimar Society กล่าวว่า การลงนามในบันทึกความตกลงครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมประมงทั้งหมดในการป้องการทรัพยากรทางทะเล โดยมีพันธะสัญญาร่วมกัน 4 ประการ ประกอบด้วย

 

  • ผลิตภัณฑ์ประมงต่างๆ ต้องมาจากการแหล่งที่ทำการประมงด้วยความรับผิดชอบ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต
  • ห่วงโซ่การผลิตจะต้องมีความโปรงใสและข้อมูลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตจะต้องมีการสื่อสารกับผู้ซื้อในต่างประเทศและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างชัดเจน
  • ต้องมีการปฏิบัติและบริหารงานด้านการประมงให้เกิดผลในการป้องกัน, ยับยั้งและกำจัดการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน (IUU)ในทุกรูปแบบ รวมถึงการจับปลาเกินขนาด เพื่อปกป้องระบบนิเวศทางทะเลในวงกว้าง
  • การสร้างความน่าเชื่อถือในระบบการติดตามและระบบตรวจสอบย้อนกลับ  เพื่อลดการทำประมงผิดกฎหมายและขาดการรายงาน ขณะเดียวยังช่วยปกป้องผู้ที่เคารพกฎหมาย

 

นายอิมรัน มุขะดัม ประธาน Adarsh Machchimar Society จากเมือง เมอคารวาดา กล่าวว่า การพัฒนาของ FIP เป็นบทพิสูจน์ความตั้งใจจริงและความพยายามของภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมประมงของอินเดีย เพื่อทำให้ภาคธุรกิจเกิดความตระหนักรู้ถึงปัญหาความยั่งยืนของภาคการ


ประมงจากการทำประมงผิดกฎหมาย มีผลทำให้จำนวนปลาซาร์ดีนลดลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่พวกเขาต้องให้ความสำคัญ

 

“นับเป็นโครงการแรกในประเทศอินเดียที่นำเอาแนวทางปฏิบัติล่าสุดของ IFFO RS (IFFO Responsible Supply Standard) มาใช้ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับในระดับนานาชาติซึ่งกำหนดเฉพาะเจาะจงในประเด็นการทำประมงอย่างรับผิดชอบตามแนวทางขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ” นายมุขะดัม กล่าวย้ำ

 

นาย เอ.บี. ซาลังเก้ ผู้ช่วยคณะกรรมาธิการประมง (เมืองรัตนคีรี) กล่าวว่า ตามกฎหมายการทำประมงอย่างยั่งยืนของรัฐมหาราษฏระ (Maharastra) ปี 2524 ถือเป็นความริเริ่มที่ดีในการเอาชนะข้อขัดแย้งระหว่างการทำประมงพื้นบ้านกับการทำประมงเชิงพาณิชย์  นับตั้งแต่ปี 2526 กฎหมายฉบับนี้ถูกนำมาบังคับใช้โดยกรมประมงของรัฐมีผลดีต่อการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน เช่น สถานการณ์ความขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย วิธีการจับปลา แนวความคิดที่เห็นความจำเป็นกฎหมายดังกล่าว นับเป็นการความคิดริเริ่มที่ดีของกรมประมงฯที่กำหนดกฎเกณฑ์ในการจับปลาด้วยวิธีการต่างๆ โดยเฉพาะการจับปลาจากทะเล

 

“รัฐบาลอินเดียกำลังเดินหน้าในการเพิ่มเครื่องมือในการทำงาน เช่น สปีดโบ๊ท ซึ่งจำเป็นต่อการดำเนินการตามกฎหมายในการเอาชนะปัญหาต่างๆ ที่มีผลต่อการทำประมงอย่างยั่งยืน รวมถึงความร่วมมือกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการสนับสนุนโครงการ FIP ตามแนวชายฝั่งของเมืองรัตนคีรีถึงเมืองกัว คู่ขนานไปกับภาคเอกชนที่ต้องการสร้างความยั่งยืนให้กับมหาสมุทรอินเดียในระยะยาว” นายซาลังเก้ กล่าว

 

นายเอมอล ปาติล ผู้อำนวยการบริษัทโอเมก้าปลาป่นและน้ำมัน จำกัด กล่าวว่า ภาคเอกชนให้คำมั่นสัญญาในการทำประมงยั่งยืนตามแนวทางของ FIP เพื่อร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรและวัตถุดิบให้เพียงพอป้อนให้กับอุตสาหกรรมปลาป่น ซึ่งสมาคมต่างๆ และเอกชน รวมด้วย ซีพีเอฟ อินเดีย และ IFFO ที่ร่วมดำเนินโครงการนี้จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนในเรื่องการบริหารจัดการของภาคอุตสาหกรรม และการเพิ่มความต้องการของปลาป่นคุณภาพจากประเทศที่มีสามารถดำเนินตามมาตรฐานสากล

 

ผู้แทนจากโครงการหุ้นส่วนการประมงอย่างยั่งยืน (SFP) กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับการประกาศความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เช่น ซีพีเอฟ อินเดีย บริษัทโอเมก้าปลาป่นและน้ำมัน เป็นต้นที่เปิดตัวโครงการ FIP ด้วยความร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งที่จะเดินหน้าความยั่งยืนในภาคการประมง เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับภูมิภาคอื่นๆ

 

นายดันแคน ลีดบิทเธอร์ ผู้จัดการโครงการ FIP ชี้ว่า แนวทางการทำประมงอย่างยั่งยืนของ IFFO RS นั้น เป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการบริหารทรัพยากรทางทะเลของอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณน้ำมันปลาซาร์ดีนของประเทศ

 

นายลีดบิทเธอร์ ยังเป็นผู้อำนวยการบริษัทฟิช แมทเทอร์ จำกัด ในออสเตรเลียและผู้เชี่ยวชาญด้านประมงในมหาสมุทรแปซิฟิคและทะเลจีนใต้มากว่า 20 ปี จะเป็นผู้นำเสนอแนวทางและวิธีปฏิบัติที่ดีทีสุดให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกคนให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้

 

ดร.ชาร์มิร่า มอนเตอริโอ ผู้อำนวยการการประมงกัว ให้ความเห็นว่า “มันเป็นเรื่องดีจริงๆ ที่ได้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตเดินหน้าตามโครงการ FIP เพื่อน้ำมันปลาซาร์ดีนของอินเดีย ซึ่งน้ำปลาซาร์ดีนเป็นผลิตภัณฑ์ประมงที่สำคัญของเมืองกัว รวมถึงปลาแมคเคอเรลซึ่งทำรายได้ประมาณ 50% ของปริมาณปลาทะเลที่จับได้ในเมืองนี้  ทั้งสองชนิดเป็นปลาที่มีความสำคัญอุดมไปด้วยโปรตีน โอเมก้า 3 กรดไขมัน และยังเป็นรายได้สำคัญของชาวประมง”

 

ย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราพบว่าการผลิตน้ำปลาซาร์ดีนของอินเดียตกต่ำมาก ในปีที่แล้วเป็นอีกครั้งที่สัญญาณจากการจัดปลาแล้วได้สิ่งมีชีวิตและปลาทะเลขนาดเล็กที่มีฤดูการวางไข่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นปัจจัยมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสิ่งแวดล้อม


อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้สามารถบริหารจัดการอย่างยั่งยืนได้ด้วยการร่วมมือของภาครัฐ ชาวประมง และอุตสาหกรรมประมง ซึ่งจะเป็นหลักประกันรายได้ที่มั่นคง ซึ่งการที่น้ำมันปลาซาร์ดีน ปลาป่นและน้ำมันปลาอื่นๆ ได้การรับรองจาก IFFO RS จะทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับราคาสูงขึ้นจากตลาดนานาประเทศ

กิจกรรมอื่น ๆ
CPF นำนวัตกรรมพัฒนาบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน เน้นตอบโจทย์ผู้บริโภค ดูแลสิ่งแวดล้อม
05 มิ.ย. 2568
CPF นำนวัตกรรมพัฒนาบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน เน้นตอบโจทย์ผู้บริโภค ดูแลสิ่งแวดล้อม
"คลีนเล้าด้วยใจ ปันไข่ให้น้อง" มูลนิธิซีพี จับมือ ซีพีเอฟ เดินหน้ายกระดับสุขอนามัยโรงเรียน ต่อยอด "โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน" 
23 พ.ค. 2568
"คลีนเล้าด้วยใจ ปันไข่ให้น้อง" มูลนิธิซีพี จับมือ ซีพีเอฟ เดินหน้ายกระดับสุขอนามัยโรงเรียน ต่อยอด "โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน" 
ซีพีเอฟ จับมือคู่ค้า SME ปรับตัวรับยุคดิจิทัล ตอบโจทย์ผู้บริโภค ร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม
23 พ.ค. 2568
ซีพีเอฟ จับมือคู่ค้า SME ปรับตัวรับยุคดิจิทัล ตอบโจทย์ผู้บริโภค ร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม

Tag:

#SME #SMEx 
ซีพีเอฟ รับรองมาตรฐาน มอก.9999  ขับเคลื่อนธุรกิจอาหารสัตว์บกเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง
19 พ.ค. 2568
ซีพีเอฟ รับรองมาตรฐาน มอก.9999  ขับเคลื่อนธุรกิจอาหารสัตว์บกเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง
cpfworldwide.com ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)
x