เกี่ยวกับซีพีเอฟ
เกี่ยวกับซีพีเอฟ
ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพบนมาตรฐานการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและกระบวนการทำงานที่รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
เกี่ยวกับซีพีเอฟ สำหรับบุคลากร
ธุรกิจ
ธุรกิจ ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สะอาดถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้
ภาพรวมธุรกิจ
บรรษัทภิบาล
บรรษัทภิบาล
พัฒนาการความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ทางธุรกิจและเติมเต็มความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าร่วมในระยะยาวอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
our mision
สารถึงผู้ถือหุ้น
บริษัทยังคงพยายามอย่างเต็มกำลังในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เพื่อเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนสัมพันธ์
นักลงทุนสัมพันธ์
บริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างผลตอบแทนด้วยความใส่ใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อันจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
นักลงทุนสัมพันธ์ ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ความยั่งยืน
เพื่อเสริมสร้าง “ศักยภาพและโอกาสการเติมโต“ สู่ “การสร้างคุณค่าร่วมกับทุกภาคส่วน“
sustainability
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
ซีพีเอฟใช้นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความเป็นเลิศควบคู่ไปกับสร้างความยั่งยืนเพื่อโลกที่ดีกว่าของคนรุ่นถัดไปภายใต้กลยุทธ์ นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Sustainovation)
สื่อเผยแพร่
สื่อเผยแพร่
ศูนย์ข่าวสารซีพีเอฟ นำเสนอเรื่องราวครอบคลุมทั้งความยั่งยืน นวัตกรรม ข่าวสารอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ
สื่อเผยแพร่
media-center
สื่อเผยแพร่
ติดตามข่าวสารล่าสุด และเรื่องราวดีๆ จากซีพีเอฟได้ที่นี่
THAI
“ซีพีเอฟ” มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% จากแรงหนุนบริษัทร่วมทุนในตปท. – ยันอียูแจกใบเหลือประมงไทยไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท
23 เม.ย. 2558
“ซีพีเอฟ” มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% จากแรงหนุนบริษัทร่วมทุนในตปท. – ยันอียูแจกใบเหลือประมงไทยไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จ้ดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตไว้ไม่น้อยกว่า 10% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 426,039 ล้านบาท หลังจากในปีที่ผ่านมาได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนธุรกิจอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทานในต่างประเทศ ได้แก่ การเข้าร่วมทุนในบริษัท Tops Foods NV ที่ประเทศเบลเยี่ยมในธุรกิจแปรรูปเนื้อสัตว์เพื่อผลิตอาหารสำเร็จรูป, เข้าร่วมลงทุนในบริษัท BHJ Kalino Food AB ทำธุรกิจขายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ อาหารสำเร็จรูปแช่เย็นและแช่แข็งใน ประเทศสวีเดน และเข้าซื้อกิจการของบริษัท Hefei Chia Tai Co.,Ltd. รวมถึง Kaifeng Chia Tai Co.,Ltd. ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ในประเทศจีน ซึ่งส่งผลดีต่อการเติบโตของรายได้ในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ 


"ภาวะเศรษฐกิจของไทยในปี 58 ซบเซา แต่รายได้ของซีพีเอฟมาจากต่างประเทศถึง 65% เมื่อเทียบกับในประเทศที่มีอยู่เพียง 35% ซึ่งต้องยอมรับว่ากำลังซื้อในประเทศตกต่ำ ก็ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากในประเทศบางส่วนแต่ไม่มากนัก แต่เนื่องจากเราเป็นธุรกิจอาหารที่คนยังมีความต้องการบริโภคทุกวัน ขณะที่ในต่างประเทศยอดขายก็ยังโตต่อเนื่อง เราจึงมีความมั่นใจว่า ปี 58 รายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% และจะมีผลตอบแทนที่ให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน"นายอดิเรก กล่าว 

 

สำหรับกรณีที่สหภาพยุโรป(อียู)ประกาศให้ใบเหลืองการประมงของไทยและการถูกกล่าวหาโดยรัฐบาลสหรัฐฯว่าไทยมีการค้ามนุษย์และใช้แรงงานผิดกฏหมายบนเรือประมง และจะประกาศลดระดับชั้นประเทศไทยไปอยู่ใน เทียร์ 3 (Tier 3 Watch List) ซึ่งเป็นระดับชั้นที่มีการค้ามนุษย์รุนแรงที่สุดนั้น บริษัทขอยืนยันว่า CPF ไม่เกี่ยวข้องกับการทำประมงในทะเล จึงไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด แม้ว่างธุรกิจอาหารสัตว์จะใช้ปลาป่นเป็บวัตถุดิบส่วนหนึ่ง แต่ก็ได้รับการรับรองจากหน่วยงานต่างประเทศ 

 

"ภาวะประมงที่มีการออกใบเหลือง โดยอียูได้ให้เวลา 6 เดือน ที่จะต้องรีบแก้ไขนั้น ทางซีพีเอฟขอเรียนว่าเรื่องการจับปลาประมงในทะเลไม่เกี่ยวกับ ซีพีเอฟ จึงไม่มีผลกระทบ โดยเราไม่ได้ทำธุรกิจจับปลาประมง เราไม่มีโรงงานปลาป่น เราเพียงแต่เป็นผู้ซื้อปลาป่นมาส่วนหนึ่งมาทำเป็นอาหารกุ้งเท่านั้น ซึ่งเรามีการใช้ปลาป่นที่มีการรับรองจากหน่วยงานต่างประเทศ"นายอดิเรก กล่าว 


ส่วนกรณีที่ไทยถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP)นั้น ทำให้ภาษีนำเข้ากุ้งอยู่ในระดับสูงประมาณ 8-12% เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และอินเดีย รวมไปถึงอเมริกาใต้ แต่บริษัทยังมีฐานธุรกิจกุ้งที่อยู่ในประเทศเวียดนาม อินเดีย และมาเลเซีย ที่จะทดแทนการส่งออกจากไทยไปได้ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าวมากนัก 


ทั้งนี้ ในการประชุมผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/58 ในวันนี้ผู้ถือหุ้น CPF อนุมัติการซื้อเงินลงทุนใน C.P.Cambodia Co.,Ltd. (CPC) โดย CPF Invesetment Limited (CPFI) จะเข้าซื้อเงินลงทุนในหุ้นสามัญของ CPC ในสัดส่วน 75% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด ราคารวมทั้งสิ้น 2,850 ล้านบาท หรือเทียบเท่ากับประมาณ 351,852 ล้านเรียลกัมพูชา เพื่อให้ CPFI ถือหุ้นใน CPC ทั้ง 100% จากเดิมที่ถือหุ้น 25% 


นายอดิเรก กล่าวว่า การลงทุนเพิ่มในกัมพูชาครั้งนี้บริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโต และอัตราการสร้างผลตอบแทนที่ดี ซึ่งจะทำให้บริษัทฯได้ขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมในเขตอินโดจีนที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการบริโภคที่อยู่ในระดับสูง โดยปีที่ผ่านมา CPC มีรายได้จากยอดขาย 8,309 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 740 ล้านบาท

กิจกรรมอื่น ๆ
เคียงข้างสังคมไทย! CPF ชวนคนไทย ร่วมฟื้นฟูโรงพยาบาลชายแดน “ทุกการซื้อ คือพลังแห่งการให้”
20 ส.ค. 2568
เคียงข้างสังคมไทย! CPF ชวนคนไทย ร่วมฟื้นฟูโรงพยาบาลชายแดน “ทุกการซื้อ คือพลังแห่งการให้”
“ฟาร์มหมอต้น” คว้า 3 รางวัล SME National Awards 2025
11 ส.ค. 2568
“ฟาร์มหมอต้น” คว้า 3 รางวัล SME National Awards 2025
Yum Asia มอบรางวัล '3C Partner Award 2025' ยกย่อง ซีพีเอฟ ในฐานะพันธมิตรตัวจริงที่มีศักยภาพ ยกระดับห่วงโซ่อุปทานอาหารที่ยั่งยืน
04 ส.ค. 2568
Yum Asia มอบรางวัล '3C Partner Award 2025' ยกย่อง ซีพีเอฟ ในฐานะพันธมิตรตัวจริงที่มีศักยภาพ ยกระดับห่วงโซ่อุปทานอาหารที่ยั่งยืน
AXONS คว้ารางวัล "AIBP Enterprise Innovation Awards" ประจำปี 2025
16 ก.ค. 2568
AXONS คว้ารางวัล "AIBP Enterprise Innovation Awards" ประจำปี 2025
cpfworldwide.com ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)
x