

จากพื้นดินรกร้างว่างเปล่า นับเป็นเวลากว่า 37 ปีแล้ว ที่หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า บ้านหนองหว้า ตำบลบ้านซ่อง อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เติบโตกลายเป็นตัวอย่างชุมชนที่ประสบความสำเร็จ เกษตรกรมีความเข้มแข็งสามารถเลี้ยงชีพได้ด้วยตัวเอง หมู่บ้านแห่งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้น้อมรับแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านการปฏิรูปที่ดิน (พ.ศ.2516) ด้วยทรงเล็งเห็นว่า การปฏิรูปที่ดินเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง โดยนายธนินท์ มองว่าสิ่งที่ต้องช่วยเหลือเกษตรกรเหล่านี้ คือ การนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาถ่ายทอดให้กับเกษตรกร พร้อมทั้งช่วยเหลือด้านการตลาดที่ซีพีมีความเชี่ยวชาญเพื่อให้เกษตรกรเหล่านี้มีความมั่นคงในอาชีพอย่างแท้จริง
นายธนินท์ เล่าว่า ต้องบอกเลยว่า ในยุคสมัยนั้นที่ตั้งโครงการนี้ขึ้นมา เมื่อปี พ.ศ.2520 เกษตรกรที่ถูกคัดเลือกมาในโครงการนี้ มาจากคนที่ไม่มีที่ดินทำกิน เป็นคนยากจนจริงๆ โดยนายอำเภอจะเป็นผู้คัดเลือกเกษตรกรเหล่านี้ ถึงแม้ผู้ที่ร่วมโครงการจะไม่มีผู้ค้ำประกัน แต่ธนาคารซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้เงินทุนค่อนข้างมั่นใจว่า หากเกษตรกรมีซีพีเป็นผู้ให้คำปรึกษาแล้วทุกอย่างจะราบรื่น เพราะซีพีการันตีราคารับซื้อแน่นอน ดังนั้น เราจึงนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในสมัยนั้นซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกมาถ่ายทอดให้กับเกษตรกร แม้พวกเขาจะไม่มีความรู้ ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงสัตว์มาก่อนเลย แต่เราเชื่อว่า ความไม่รู้อะไรเลยนี่ละ จะเป็นบันไดสู่ความสำเร็จ เพราะเขาจะเชื่อและเปิดรับความคิดใหม่ๆ จากนั้นบริษัททำหน้าที่หาพันธุ์สัตว์ชั้นเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกา หลังจากได้ผลผลิตมา บริษัททำหน้าที่หาตลาดให้กับเกษตรกร เท่ากับโครงการนี้เอาความเสี่ยงทั้งหมดมาอยู่ที่ซีพี ผลปรากฎว่าผ่านไป 10 ปี จากเกษตรกรยากไร้ ไม่มีที่ทำกิน ก็สามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ได้มีที่ดิน 24 ไร่เป็นของตัวเอง จากไม่มีอาชีพก็สามารถเลี้ยงสุกรได้อย่างช่ำชอง จากไม่มีความรู้ก็สามารถรวมตัวกันจัดตั้งให้หมู่บ้านเป็นนิติบุคคล ในนาม “บริษัท หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า จำกัด”
“ความสำเร็จของโมเดลหนองหว้า เกิดจากการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาถ่ายทอดให้เกษตรกรถูกจังหวะและโอกาส ถือว่าฟาร์มสุกรหนองหว้าขณะนั้นทันสมัยที่สุดในเอเชียรองจากญี่ปุ่น เราได้นำความรู้ทางวิชาการและการบริหารจัดการ มีทีมงานสัตวแพทย์คอยไปตรวจสม่ำเสมอ เกษตรกรไม่ต้องลำบาก สอนให้พวกเขารู้จักใช้ชีวิต มีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดี การขายบริษัทเป็นผู้รับซื้อโดยตรงไม่ต้องผ่านเถ้าแก่รายใหญ่ รายย่อย ถึงแม้เราจะให้ความช่วยเหลือเกษตรกร แต่ธุรกิจเราก็สามารถเดินควบคู่ไปได้ ในช่วงแรกของการลงทุนเกษตรกรอาจขาดทุนบ้างแต่บริษัทก็คอยให้ความช่วยเหลือ ดูแลประคับประคองกัน ในเวลาที่เขาได้กำไร เวลานั้นก็ค่อยคืนทุนให้บริษัท เพราะทั้งบริษัทและเกษตรกร คือ คู่ชีวิตที่คอยเกื้อหนุนดูแลซึ่งกันและกัน ไม่มีเกษตรกร ซีพีก็อยู่ไม่ได้” นายธนินท์ กล่าว
กุญแห่งความสำเร็จนั้น นายธนินท์ เผยว่าต้องประกอบไปด้วย ทุน เทคโนโลยี และที่สำคัญ คือ ตลาด ฉะนั้นสิ่งที่ซีพีช่วยเหลือเกษตรกร นอกเหนือจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว สิ่งสำคัญคือช่วยด้านการตลาดที่เข้มแข็ง และ ซีพีจะไม่ส่งเสริมการทำตลาดที่เกินกำลังเกษตรกร เช่น ถ้าหมูล้นตลาดจะทำอย่างไร เกษตรกรควรผลิตในปริมาณเท่าไหร่ ดังนั้น หากเกษตรกรรายย่อยไม่รู้จักทำตลาดดีพอ ไปขอคำปรึกษาจากเอเย่นต์รายย่อยอาจเกิดความล้มเหลวได้
นอกจากนั้น นายธนินท์ ได้ให้มุมมองของการทำธุรกิจแบบครบวงจร หรือ Integrated Business ไว้ว่า หลายคนอาจจะมีความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับการทำธุรกิจครบวงจร ว่าเป็นธุรกิจผูกขาด ฮุบตลาดไว้คนเดียว อันที่จริงแล้ว การทำธุรกิจครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำนั้น จะช่วยเสริมศักยภาพของธุรกิจในระดับมหภาค หากมองในเชิงบวกเป็นการช่วยสร้างตลาดทั้งระบบ ผู้บริโภคก็ได้รับประโยชน์โดยตรง เพราะได้บริโภคสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม เพราะการทำครบวงจรจะช่วยลดต้นทุน ไม่ใช่การเอาเปรียบผู้บริโภค
จากการที่หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้ามีการพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องมาตลอด 37 ปี เรียกได้ว่าเป็นชุมชนเลี้ยงสุกรที่ทันสมัยสุดในประเทศไทย ที่สมาชิกในชุมชนมีความเป็นปึกแผ่น และมุ่งมั่นสืบทอดอาชีพอย่างมั่นคงยั่งยืน กลายเป็นโมเดลตัวอย่างที่หน่วยงานทั้งในและต่างประเทศต่างให้ความสนใจมาศึกษาดูงาน เรียนรู้เทคโนโลยีการเลี้ยงสุกรที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นหมู่บ้านต้นแบบที่สร้างเกษตรกรไทยให้มีความเข้มแข็งอย่างแท้จริง./