เกี่ยวกับซีพีเอฟ
เกี่ยวกับซีพีเอฟ
ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพบนมาตรฐานการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและกระบวนการทำงานที่รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
เกี่ยวกับซีพีเอฟ สำหรับบุคลากร
ธุรกิจ
ธุรกิจ ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สะอาดถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้
ภาพรวมธุรกิจ
บรรษัทภิบาล
บรรษัทภิบาล
พัฒนาการความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ทางธุรกิจและเติมเต็มความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าร่วมในระยะยาวอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
our mision
สารถึงผู้ถือหุ้น
บริษัทยังคงพยายามอย่างเต็มกำลังในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เพื่อเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนสัมพันธ์
นักลงทุนสัมพันธ์
บริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างผลตอบแทนด้วยความใส่ใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อันจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
นักลงทุนสัมพันธ์ ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ความยั่งยืน
เพื่อเสริมสร้าง “ศักยภาพและโอกาสการเติมโต“ สู่ “การสร้างคุณค่าร่วมกับทุกภาคส่วน“
sustainability
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
ซีพีเอฟใช้นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความเป็นเลิศควบคู่ไปกับสร้างความยั่งยืนเพื่อโลกที่ดีกว่าของคนรุ่นถัดไปภายใต้กลยุทธ์ นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Sustainovation)
สื่อเผยแพร่
สื่อเผยแพร่
ศูนย์ข่าวสารซีพีเอฟ นำเสนอเรื่องราวครอบคลุมทั้งความยั่งยืน นวัตกรรม ข่าวสารอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ
สื่อเผยแพร่
media-center
สื่อเผยแพร่
ติดตามข่าวสารล่าสุด และเรื่องราวดีๆ จากซีพีเอฟได้ที่นี่
THAI
ซีพีเอฟ เดินหน้าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ตลอดห่วงโซ่การผลิต
06 ก.ค. 2559
ซีพีเอฟ เดินหน้าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ตลอดห่วงโซ่การผลิต

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าโครงการฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ในผลิตภัณฑ์ หมู ไก่ กุ้ง และอาหารสัตว์ ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตอกย้ำองค์กรที่มุ่งลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการบริหารกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นน้ำไปสู่ปลายน้ำ 

นางสาวกุหลาบ  กิมศรี รองกรรมการผู้จัดการ สำนักระบบมาตรฐานสากล ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟเป็นองค์กรในไทยที่ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อันเป็นปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ภายใต้แนวคิด “ธุรกิจสีเขียว” บริษัทฯ จึงริเริ่มดำเนิน “โครงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์” เป็นรายแรกของภูมิภาคเอเชียตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 โดยแบ่งการดำเนินโครงการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ซีพีเอฟเป็น คาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กร และคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ เพื่อวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วยตลอดวัฏจักรการผลิต ด้วยตระหนักถึงการสร้างคุณค่าของทรัพยากรให้ยั่งยืน อันเป็นต้นแบบการผลิตอาหารคุณภาพป้อนสู่ประชากรโลก อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการลดวิกฤติภาวะโลกร้อนซึ่งเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ

นางสาว กุหลาบ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในประเทศไทยภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมให้เกิดระบบเศรษฐกิจ  สีเขียว โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ได้มีการขึ้นทะเบียนสินค้าภายใต้ “โครงการฉลากลดโลกร้อน” และ “โครงการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint Labeling)นั้น ซีพีเอฟในฐานะ “ผู้ผลิตโปรตีนคาร์บอนต่ำ” ได้นำผลิตภัณฑ์เข้าร่วมกับ อบก. ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2551 เป็นต้นมา ปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารของซีพีเอฟได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์รวม 148 รายการ โดยระหว่างปี พ.ศ. 2555-2559 ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ ไก่ กุ้ง หมู และนม พร้อมวางโรดแมปขยายโครงการไปสู่ผลิตภัณฑ์จากไข่ และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมรับประทานในปี พ.ศ. 2561

นางสาวกุหลาบ กล่าวต่อไปว่า “ผลิตภัณฑ์ไก่” เป็นธุรกิจหลักของซีพีเอฟที่ส่งออกไปต่างประเทศทั่วโลก กระบวนการผลิตไก่ของซีพีเอฟมีการผลิตอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานโลก  ล่าสุด ซีพีเอฟ ได้รับ ฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือ ฉลากลดโลกร้อน ที่ครอบคลุมห่วงโซ่อาหาร ได้แก่ ลูกไก่ ไก่มีชีวิต และไก่สด แสดงให้เห็นถึงการผลิตสินค้าที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่กระบวนการผลิตต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เราได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอย่างต่อเนื่อง มีการใช้อาหารสัตว์ที่มีคุณภาพดี ลูกไก่มาจากสายพันธ์ที่ดีให้ผลผลิตสูง ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ไก่ของซีพีเอฟ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เนื้อไก่สดซีพีมีการปล่อยคาร์บอน ไดออกไซด์น้อยกว่าอุตสาหกรรมผลิตเนื้อไก่ของประเทศไทย 806,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์โดยคิดจากข้อมูลยอดขายปี พ.ศ. 2558 เท่ากับเนื้อไก่สดซีพีมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อไก่ของไทยถึง 50% โดยเนื้อไก่สด 1 กิโลกรัม มีค่าการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์เท่ากับ 2.29 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ในส่วนของผลิตภัณฑ์กุ้ง “ผลิตภัณฑ์เกี๊ยวกุ้งตราซีพี” เป็นผลิตภัณฑ์กุ้งรายแรกของไทยที่ได้รับฉลากลดโลกร้อน แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์เกี๊ยวกุ้งมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทได้ทำคาร์บอนฟุตพรินต์ของเกี๊ยวกุ้งตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 มีค่าการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์เท่ากับ 1.05 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อเกี๊ยวกุ้ง 1 ถ้วย (น้ำหนักบรรจุ 145 กรัม) ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนถึง 23% คิดเป็นการลดค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ได้ 2,500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยคิดจากข้อมูลยอดขายปี พ.ศ. 2558

สำหรับผลิตภัณฑ์หมู โดยหมูสด 1 กิโลกรัม มีค่าการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์เท่ากับ 4.42 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ในขณะที่ทั่วโลกในปี พ.ศ. 2556 องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติประกาศค่าการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์เท่ากับ 6.1 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์หมูซีพี มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าอุตสาหกรรมการผลิตหมูของโลกถึง 28%

อย่างไรก็ตามการค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของซีพีเอฟ มีการคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงภายใต้สวัสดิภาพสัตว์ที่ดี  การแปรรูปเนื้อสัตว์ การบริโภค และการจัดการของเสีย  ทั้งที่เกิดขึ้นภายในกระบวนการผลิตจนถึงขยะบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภค  โดยนำหลักการประเมินประสิทธิภาพเชิงเศรษฐนิเวศ (Eco-Efficiency Analysis) มาใช้เพื่อมุ่งลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม

“จากการนำหลักประเมินประสิทธิภาพเชิงเศรษฐนิเวศมาประเมินผลกระทบของผลิตภัณฑ์ไก่ยั่งยืนซีพีเอฟ ซึ่งผลการวิเคราะห์ไก่สด 1 กิโลกรัม จากข้อมูลปี พ.ศ. 2557 เทียบกับปี พ.ศ. 2554 พบว่า การใช้พลังงาน (Energy) ลดลง 16%, การปลดปล่อยมลพิษ (Emissions) ลดลง 22%, ศักยภาพในการก่อให้เกิดความเป็นพิษ(Toxicity Potential) ลดลง 23%, อุบัติเหตุและความเจ็บป่วยจากการทำงาน (Occupational Illness and Accidents) ลดลง 7%, ทรัพยากร (Resources) ลดลง 28% และการใช้ที่ดิน (Land Use) ลดลง 19% ซึ่งผลเหล่านี้มีวิธีการ(methodology) ที่ได้การรับรองจาก NSF สหรัฐอเมริกา” นางสาวกุหลาบ กล่าวเสริม

ซีพีเอฟยังคงมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่การผลิต  ผ่านโครงการที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับที่แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการใช้วัตถุดิบและพลังงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทำให้สามารถบริหารจัดการจุดสำคัญ (Hotspot) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse gas: GHG) ได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีการบริหารจัดการและลดก๊าซเรือนกระจก โดยตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ    20-25 ภายในปี พ.ศ. 2573 นำประเทศมุ่งสู่ “สังคมคาร์บอนต่ำ”

กิจกรรมอื่น ๆ
ซีพีเอฟ พา “น้องหมีขั้วโลก” ชวนสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่ยั่งยืน ในงาน SX2025
01 ต.ค. 2568
ซีพีเอฟ พา “น้องหมีขั้วโลก” ชวนสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่ยั่งยืน ในงาน SX2025
เคียงข้างสังคมไทย! CPF ชวนคนไทย ร่วมฟื้นฟูโรงพยาบาลชายแดน “ทุกการซื้อ คือพลังแห่งการให้”
20 ส.ค. 2568
เคียงข้างสังคมไทย! CPF ชวนคนไทย ร่วมฟื้นฟูโรงพยาบาลชายแดน “ทุกการซื้อ คือพลังแห่งการให้”
“ฟาร์มหมอต้น” คว้า 3 รางวัล SME National Awards 2025
11 ส.ค. 2568
“ฟาร์มหมอต้น” คว้า 3 รางวัล SME National Awards 2025
Yum Asia มอบรางวัล '3C Partner Award 2025' ยกย่อง ซีพีเอฟ ในฐานะพันธมิตรตัวจริงที่มีศักยภาพ ยกระดับห่วงโซ่อุปทานอาหารที่ยั่งยืน
04 ส.ค. 2568
Yum Asia มอบรางวัล '3C Partner Award 2025' ยกย่อง ซีพีเอฟ ในฐานะพันธมิตรตัวจริงที่มีศักยภาพ ยกระดับห่วงโซ่อุปทานอาหารที่ยั่งยืน
cpfworldwide.com ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)
x