เกี่ยวกับซีพีเอฟ
เกี่ยวกับซีพีเอฟ
ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพบนมาตรฐานการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและกระบวนการทำงานที่รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
เกี่ยวกับซีพีเอฟ สำหรับบุคลากร
ธุรกิจ
ธุรกิจ ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สะอาดถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้
ภาพรวมธุรกิจ
บรรษัทภิบาล
บรรษัทภิบาล
พัฒนาการความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ทางธุรกิจและเติมเต็มความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าร่วมในระยะยาวอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
our mision
สารถึงผู้ถือหุ้น
บริษัทยังคงพยายามอย่างเต็มกำลังในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เพื่อเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนสัมพันธ์
นักลงทุนสัมพันธ์
บริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างผลตอบแทนด้วยความใส่ใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อันจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
นักลงทุนสัมพันธ์ ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ความยั่งยืน
เพื่อเสริมสร้าง “ศักยภาพและโอกาสการเติมโต“ สู่ “การสร้างคุณค่าร่วมกับทุกภาคส่วน“
sustainability
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
ซีพีเอฟใช้นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความเป็นเลิศควบคู่ไปกับสร้างความยั่งยืนเพื่อโลกที่ดีกว่าของคนรุ่นถัดไปภายใต้กลยุทธ์ นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Sustainovation)
สื่อเผยแพร่
สื่อเผยแพร่
ศูนย์ข่าวสารซีพีเอฟ นำเสนอเรื่องราวครอบคลุมทั้งความยั่งยืน นวัตกรรม ข่าวสารอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ
สื่อเผยแพร่
media-center
สื่อเผยแพร่
ติดตามข่าวสารล่าสุด และเรื่องราวดีๆ จากซีพีเอฟได้ที่นี่
THAI
ซีพีเอฟแจงไตรมาส 2 ปี 61 กำไรสุทธิ 5,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 จากปีก่อน
14 ส.ค. 2561
ซีพีเอฟแจงไตรมาส 2 ปี 61 กำไรสุทธิ 5,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 จากปีก่อน

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย หรือ “ซีพีเอฟ” รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2561 ด้วยยอดขาย 136,353 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของกิจการต่างประเทศร้อยละ 16 ในขณะที่ยอดขายกิจการประเทศไทยลดลงร้อยละ 5

 

ยอดขายของซีพีเอฟเกิดจากกิจการต่างประเทศจำนวน 16 ประเทศร้อยละ 68 กิจการประเทศไทยร้อยละ 27 และจากการส่งออกจากประเทศไทยร้อยละ 5 ของยอดขายรวม โดยมียอดขายจาก 3 ประเทศหลัก คือ ประเทศไทย (ร้อยละ 32) สาธารณรัฐประชาชนจีน (ร้อยละ 26) และประเทศเวียดนาม (ร้อยละ 16) คิดเป็นประมาณร้อยละ 74 ของยอดขายรวม

 

ไตรมาส 2 ปี 2561 ซีพีเอฟรายงานกำไรสุทธิจำนวน 5,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 93 จากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา กำไรสุทธิที่ดีขึ้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากผลการดำเนินงานของกิจการในประเทศเวียดนามที่เข้าสู่ภาวะปกติ

 

นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวว่า ภาวะเนื้อสัตว์ล้นตลาดในหลายประเทศเป็นปัจจัยหลักในการกดดันผลการดำเนินงานของซีพีเอฟตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2559 ที่เกิดภาวะผลผลิตสุกรล้นตลาดในประเทศเวียดนาม และเริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะผลผลิตสุกรและไก่เนื้อล้นตลาดในประเทศไทยในช่วงกลางปี 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งในเดือนเมษายนปีนี้ราคาเนื้อสุกรในทั้ง 2 ประเทศเริ่มปรับตัวสูงขึ้นเหนือต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะราคาสุกรในประเทศเวียดนามได้มีการปรับมาอยู่ในภาวะปกติ อันเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟดีขึ้นในไตรมาส 2 ปีนี้ และคาดว่าน่าจะยังคงดีต่อเนื่องถึงปี 2562 โดยราคาสุกรและไก่เนื้อในประเทศไทยมีการปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมาและน่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการในครึ่งหลังของปีจะดีกว่าช่วงที่ผ่านมา

 

สำหรับวิกฤตค่าเงินของประเทศตุรกีนั้น ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในประเทศตุรกี ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 3 ของยอดขายรวม เนื่องจากกิจการของบริษัทเน้นการผลิตและจำหน่ายในประเทศตุรกีเป็นหลัก และได้ปรับโครงสร้างทางการเงินในช่วงต้นปีที่ผ่านมา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้น่าจะส่งผลดีให้กับกิจการในประเทศตุรกีส่งออกได้เพิ่มขึ้น 

 

นายสุขสันต์ ได้กล่าวปิดท้ายว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นครัวของโลกอย่างยั่งยืน บริษัทให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าคุณภาพ ปลอดภัย สามารถตรวสอบย้อนกลับได้ และยึดมั่นในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ดูแลและรับผิดชอบต่อสังคมรอบด้าน บนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยจะสะท้อนให้เห็นจากการได้รับการยอมรับด้านความยั่งยืนจากองค์กรทั้งในประเทศและระดับโลกในด้านต่างๆ อันรวมถึง การได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกหุ้นยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดัชนีความยั่งยืน DJSI และล่าสุดได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิก FTSE4Good เป็นปีที่สองติดต่อกัน

 

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท โดยกำหนดให้วันที่ 29 สิงหาคม 2561 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (XD วันที่ 28 สิงหาคม 2561) และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 กันยายน 2561

กิจกรรมอื่น ๆ
ซีพีเอฟได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “Asia Pacific’s Best Company 2025” โดยนิตยสาร TIME ร่วมกับ Statista
03 ก.ค. 2568
ซีพีเอฟได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน “Asia Pacific’s Best Company 2025” โดยนิตยสาร TIME ร่วมกับ Statista
CPF คว้ารางวัลใหญ่ ระดับ Asia และในประเทศ
27 มิ.ย. 2568
CPF คว้ารางวัลใหญ่ ระดับ Asia และในประเทศ
ซีพีเอฟ ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ปี 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำระดับภูมิภาค
17 มิ.ย. 2568
ซีพีเอฟ ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ปี 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำระดับภูมิภาค
ซีพีเอฟเปิดเวทีแห่งโอกาส สร้างความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ในงาน Global Sourcing Expo 2025
02 มิ.ย. 2568
ซีพีเอฟเปิดเวทีแห่งโอกาส สร้างความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ในงาน Global Sourcing Expo 2025
cpfworldwide.com ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)
x