เกี่ยวกับซีพีเอฟ
เกี่ยวกับซีพีเอฟ
ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพบนมาตรฐานการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและกระบวนการทำงานที่รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
เกี่ยวกับซีพีเอฟ สำหรับบุคลากร
ธุรกิจ
ธุรกิจ ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สะอาดถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้
ภาพรวมธุรกิจ
บรรษัทภิบาล
บรรษัทภิบาล
พัฒนาการความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ทางธุรกิจและเติมเต็มความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าร่วมในระยะยาวอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
our mision
สารถึงผู้ถือหุ้น
บริษัทยังคงพยายามอย่างเต็มกำลังในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เพื่อเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนสัมพันธ์
นักลงทุนสัมพันธ์
บริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างผลตอบแทนด้วยความใส่ใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อันจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
นักลงทุนสัมพันธ์ ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ความยั่งยืน
เพื่อเสริมสร้าง “ศักยภาพและโอกาสการเติมโต“ สู่ “การสร้างคุณค่าร่วมกับทุกภาคส่วน“
sustainability
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
ซีพีเอฟใช้นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความเป็นเลิศควบคู่ไปกับสร้างความยั่งยืนเพื่อโลกที่ดีกว่าของคนรุ่นถัดไปภายใต้กลยุทธ์ นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Sustainovation)
สื่อเผยแพร่
สื่อเผยแพร่
ศูนย์ข่าวสารซีพีเอฟ นำเสนอเรื่องราวครอบคลุมทั้งความยั่งยืน นวัตกรรม ข่าวสารอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ
สื่อเผยแพร่
media-center
สื่อเผยแพร่
ติดตามข่าวสารล่าสุด และเรื่องราวดีๆ จากซีพีเอฟได้ที่นี่
THAI
ฟาร์มสุกรสีเขียว–ต้นแบบฟาร์มแห่งความสุขและการแบ่งปัน
25 ก.พ. 2559
ฟาร์มสุกรสีเขียว–ต้นแบบฟาร์มแห่งความสุขและการแบ่งปัน

 

ด้วยแนวคิดการสร้างกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน นำมาสู่การต่ยอดและขยายผลการใช้ทรัพยากรให้เต็มประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้แนวคิด “ฟาร์มสีเขียว”

จากพื้นที่กว่า 306 ไร่ของฟาร์มในตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรือนเลี้ยงหมูรวม 30 หลังมีครบทุกหน่วยผลิตอยู่ในฟาร์มเดียวกัน นอกจากเลี้ยงพ่อพันธุ์ 50 พ่อ และแม่หมู 3,400 แม่ โดยที่นี่ยังมีหมูเข้าเลี้ยงอยู่ตลอดเวลามากถึง 22,400 ตัว คือจุดเริ่มต้นเส้นทางสีเขียวของฟาร์มกาญจนบุรี หนึ่งในต้นแบบ “กรีนฟาร์ม” ที่เน้นการใช้ประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม

ฟาร์มแห่งนี้ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม และการวางผังฟาร์มไว้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นความตั้งใจในการริเริ่มก้าวแรกของการดำเนินงานจัดทำโครงการฟาร์มสุกรสีเขียว หรือ "กรีนฟาร์ม" ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ก่อนจะถูกพัฒนาจนกลายเป็นฟาร์มต้นแบบที่ได้รับการขยายผลต่อไปยังฟาร์มสุกรอื่นๆ

นอกจากจากแนวคิดที่จะสร้างฟาร์มหมูปลอดโรค ปลอดสาร ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซีพีเอฟหมายมั่นปั้นมือที่จะพัฒนาให้ฟาร์มแห่งนี้ก้าวสู่การเป็นศูนย์เรียนรู้ของการทำฟาร์มครบวงจรทุกหน่วยผลิตในฟาร์มเดียว ในแบบ One Stop Service และยังใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาช่วยให้การเลี้ยงหมูมีประสิทธิภาพสูงสุดและช่วยลดต้นทุนการผลิต ภายใต้ระบบการเลี้ยงมาตรฐานและตรวจสอบย้อนกลับได้

ที่สำคัญซีพีเอฟยังมุ่งเน้นกระบวนการผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมประหยัดพลังงาน และเป็นตัวอย่างในการพัฒนาฟาร์มหมูในอนาคตที่ต้องใส่ใจชุมชน โดยนอกจากกรีนฟาร์มสุกรกาญจนบุรี จะเป็นมิตรต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมสวยงามยังมุ่งเน้นการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

การวางผังดังกล่าวแบ่งแยกส่วนเลี้ยงสัตว์ ส่วนบำบัดของเสียจากการเลี้ยงด้วยระบบไบโอแก๊ส บ่อบำบัดและบ่อพักน้ำ ส่วนสำนักงาน บ้านพัก และพื้นที่ส่วนกลาง โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ “สีเขียว” ทั้งหมด

ซีพีเอฟยังนำเทคโนโลยีแบบเต็มรูปแบบเข้ามาติดตั้งในฟาร์มเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เริ่มจากการทำฟาร์มระบบปิดด้วยโรงเรือนระบบอีแวป การใช้ส้วมน้ำในโรงเรือนหมู การใช้ระบบไบโอแก๊สแบบ cover lagoon ได้ก๊าซชีวภาพมาปั่นเป็นไฟฟ้าใช้ในฟาร์ม การทำระบบบำบัดน้ำเพื่อนำน้ำไปรดต้นไม้รอบฟาร์ม นำระบบฟอกอากาศท้ายโรงเรือนมาใช้อย่างได้ผล ซึ่งระบบทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้มาตรฐานฟาร์มสีเขียวที่ทั้งช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีผลต่อภาวะโลกร้อน ทำให้ฟาร์มอยู่กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน

ขณะเดียวกัน ฟาร์มสุกรซีพีเอฟยังได้แบ่งปัน "น้ำปุ๋ย" ซึ่งเป็นน้ำที่ออกจากระบบไบโอแก๊สและผ่านการบำบัดจนมีคุณภาพมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังและปลูกไผ่ตง ที่อยู่ในพื้นที่รอบๆ ฟาร์ม ทำให้ช่วยลดต้นทุนค่าปุ๋ยและยังแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งได้เป็นอย่างดี 

กำนันระเบียบ ปทุมสูตร กำนันเทศบาลตำบลสระลงเรือ เล่าว่า ฟาร์มแห่งนี้ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2546 แต่ชาวบ้านรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างฟาร์มหมูของซีพีเอฟกับฟาร์มหมูแบบหลังบ้าน และนอกจากพื้นที่โดยรอบจะเป็นไร่อ้อย ภายในฟาร์มก็มีการปลูกต้นไม้เต็มบริเวณเหมือนรีสอร์ท จนแทบไม่เชื่อว่าเป็นฟาร์มหมู

กำนันระเบียบ ให้คำยืนยันเรื่องที่ไม่มีกลิ่นเหม็นรบกวนสมาชิกชุมชนใกล้เคียงแล้ว ยังกล่าวเสริมว่า น้ำที่ผ่านการบำบัดจากฟาร์มสุกรแห่งนี้ยังได้แบ่งปันให้กับเกษตรกรที่อยู่รอบๆฟาร์ม เพื่อนำไปรดไร่อ้อยซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง

“ผมอดภูมิใจไม่ได้ เพราะน้ำดังกล่าวมีส่วนช่วยให้เกษตรกรไร่อ้อยได้ผลผลิตเพิ่มลดต้นทุน กำไรเพิ่มและแก้ปัญหาขาดน้ำได้"

กำนันระเบียบ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ใช้น้ำหลังการบำบัดจากฟาร์มบนเนื้อที่ 110 ไร่ ทำให้อ้อยได้รับน้ำพอเพียง  โดยพบว่าได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว ประมาณ 10 ตันต่อไร่ รวมเป็น 20-21 ตันต่อไร่ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมี แถมยังช่วยลดค่าแรงงานคนถอนหญ้าไปได้ถึงไร่ละ 1,000 บาท เนื่องจากต้นอ้อยโตเร็วต้นหญ้าจึงโตไม่ทัน ช่วยให้ต้นทุนค่าปลูก-ไถ-ค่าแรง ลดลงเหลือประมาณ 8,000 บาทต่อไร่

ด้านวรรณา ทองยิ้ม  ชาวบ้านโปร่งไหม ตำบลหนองประดู่ ที่อาศัยอยู่ใกล้ฟาร์มและเป็นเกษตรกรอีกคนที่ขอน้ำหลังการบำบัดไปใช้ในไร่อ้อยมาร่วม 10 ปี ยืนยันอีกเสียงว่า ผลผลิตอ้อยที่ดีขึ้นนั้นต้องยกความดีให้น้ำที่ได้รับจากฟาร์ม และยังช่วยลดการใช้ ปุ๋ยเคมีจากเดิมลงไป 50%

จากมาตรฐานฟาร์มสีเขียวของซีพีเอฟได้กลายเป็นโมเดลการเลี้ยงสัตว์รักษ์โลก ที่ถูกนำไปถ่ายทอดให้เกษตรกรรายย่อยในโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์ อย่างเช่นที่ สมเกียรติฟาร์ม เลี้ยงหมูขุน ในตำบลแพรกหา อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ของ สมเกียรติ โหสกุล ที่นำรูปแบบ กรีนฟาร์มมาปรับใช้ โดยเฉพาะระบบไบโอแก๊ส ที่ช่วยเปลี่ยนขี้หมูให้กลายเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ ช่วยลดรายจ่ายค่ากระแสไฟฟ้าได้มากกว่า 50% และยังนำแก๊สเข้าระบบท่อแก๊สรวมกับเพื่อนๆเกษตรกรในตำบลแพรกหากลายเป็นแก๊ซหุงต้มลดค่าใช้จ่ายให้กับเพื่อนบ้านได้อีกด้วย ส่วนน้ำหลังการบำบัดก็ยังนำไป แบ่งปันให้เพื่อนเกษตรที่ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ นำไปรดต้นหญ้าแบบฟรีๆ ช่วยเพิ่มผลผลิตโดยไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมี ทำให้เพื่อนบ้านมี รายได้เพิ่มขึ้นอีกเดือนละกว่า 10,000 บาท

กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ที่หมู่ 7 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งค้นพบวิธีการที่จะช่วยลดต้นทุนด้วยการใช้ “น้ำปุ๋ย” ที่ได้จากฟาร์มสุกรจันทบุรี 2 ของซีพีเอฟ ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนได้อย่างแท้จริง

“เมื่อตอนเริ่มต้นประมาณปี 2553 เพื่อนเกษตรกรยังใช้ถัง 1,000 ลิตร ไปบรรทุกน้ำจากฟาร์มมาใช้ จากหนึ่งคนก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น  จากการบอกกันปากต่อปากว่าผลผลิตกล้วยดีขึ้น พอเอาไปรดต้นเงาะลูกก็งามเหมือนกัน ผมนำเรื่องนี้มาปรึกษากับทางฟาร์มว่าเราควรทำเป็นโครงการปันน้ำให้สวนเกษตรภายในหมู่บ้าน ทางฟาร์มก็เห็นด้วย และเริ่มโครงการกันทันทีเพราะเขาก็อยากทำกิจกรรมดีๆร่วมกับเราอยู่แล้ว ฟาร์มก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเหมือนกัน ชาวสวนและชาวฟาร์มจึงช่วยกันต่อท่อ PVC ที่ได้รับจากกรมชลประทานมาต่อเป็นท่อส่งน้ำให้แต่ละสวน จนถึงตอนนี้เรามีสมาชิกในโครงการ 35 คนแล้ว” ณรงค์ศักดิ์ สุทธาทิพย์ ผู้ทรงคุณวุฒิสภาเกษตรกร และประธานหมอดินจังหวัดจันทบุรี บอกถึงจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของพี่น้องเกษตรกร

“ข้อดีของการใช้น้ำปุ๋ยคือ การช่วยปรับสภาพดินทำให้มีลักษณะร่วมซุย เพราะในน้ำมีจุลินทรีย์ที่ช่วยปรับโครงสร้างดินให้ดีขึ้น ที่สำคัญยังช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยคอกไปได้ถึง 40% อย่างเช่นสวนของผมปลูกผลไม้แบบผสมผสานบนพื้นที่ 10 ไร่ พบว่าผลผลิตมีคุณภาพดี รสชาติก็อร่อยกว่าเมื่อก่อน”โชติ ไหมทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ที่เป็นเกษตรกรกลุ่มแรกๆ ที่บรรทุกน้ำปุ๋ยมาใช้ เพราะได้ยินจากเพื่อนเกษตรกรว่าใช้น้ำนี้แล้วผลผลิตกล้วยดีขึ้นมากจึงทดลองบ้าง

“ตั้งแต่ใช้น้ำปุ๋ยก็เลิกใช้ปุ๋ยเคมีกับปุ๋ยขี้ไก่กับสวนกล้วยไปเลย เรียกว่าประหยัดค่าปุ๋ยได้ 100% ใบกล้วยใหญ่ ต้นงาม ผลดก คุณภาพก็ดีขึ้นมาก ผมใช้น้ำเดือนละ 1-2 ครั้ง และรดต้นทุเรียนกับเงาะด้วย ใช้น้ำมา 5 ปีไม่มีปัญหาอะไร ดินก็ดีผลไม้ก็งามสังเกตว่า ผลไม้ลูกใหญ่ขึ้น”

นอกจากการแบ่งปันน้ำและน้ำปุ๋ยให้พี่น้องในชุมชนแล้ว ในฟาร์มปราจีนบุรี 1 ของซีพีเอฟ ยังจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ให้กับพนักงานในฟาร์มด้วยโครงการปลูกผักปลอดภัยในพื้นที่ว่างระหว่างโรงเรือนเพื่อให้เพื่อนพนักงานนำผักไปประกอบอาหาร ส่วนที่เหลือยังสามารถนำไปจำหน่ายให้กับเพื่อนบ้านเป็นรายได้เสริม และยังต่อยอดความสำเร็จสู่โครงการผักปลอดภัยเพื่อน้อง ให้กับน้องๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านหนองตะแบก เพื่อให้ได้มีผักรับประทานเป็นอาหารกลางวัน โดยชาวซีพีเอฟจิตอาสาจากฟาร์มได้ลงพื้นที่ ร่วมกับน้องๆ นักเรียน จากนั้นจึงมอบหน้าที่การดูแลให้กับอาจารย์ผู้รับผิดชอบกับน้องๆได้ร่วมกันบริหารจัดการเหล่านี้คือเรื่องราวส่วนหนึ่งของการส่งต่อทั้งประโยชน์และความสุขที่ฟาร์มสีเขียวซีพีเอฟพยายามมอบแก่ชุมชนโดยรอบที่เห็นเป็นรูปธรรมได้อย่างชัดเจน

กิจกรรมอื่น ๆ
เคียงข้างสังคมไทย! CPF ชวนคนไทย ร่วมฟื้นฟูโรงพยาบาลชายแดน “ทุกการซื้อ คือพลังแห่งการให้”
20 ส.ค. 2568
เคียงข้างสังคมไทย! CPF ชวนคนไทย ร่วมฟื้นฟูโรงพยาบาลชายแดน “ทุกการซื้อ คือพลังแห่งการให้”
“ฟาร์มหมอต้น” คว้า 3 รางวัล SME National Awards 2025
11 ส.ค. 2568
“ฟาร์มหมอต้น” คว้า 3 รางวัล SME National Awards 2025
Yum Asia มอบรางวัล '3C Partner Award 2025' ยกย่อง ซีพีเอฟ ในฐานะพันธมิตรตัวจริงที่มีศักยภาพ ยกระดับห่วงโซ่อุปทานอาหารที่ยั่งยืน
04 ส.ค. 2568
Yum Asia มอบรางวัล '3C Partner Award 2025' ยกย่อง ซีพีเอฟ ในฐานะพันธมิตรตัวจริงที่มีศักยภาพ ยกระดับห่วงโซ่อุปทานอาหารที่ยั่งยืน
AXONS คว้ารางวัล "AIBP Enterprise Innovation Awards" ประจำปี 2025
16 ก.ค. 2568
AXONS คว้ารางวัล "AIBP Enterprise Innovation Awards" ประจำปี 2025
cpfworldwide.com ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)
x