ในโลกยุคใหม่ที่ทุกคนหันมาใส่ใจในสุขภาพ โดยสามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพและโภชนาการที่ดี ควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญคือการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน เพื่อรักษาคุณภาพอาหารและรักษ์โลกไปพร้อมกัน อาทิ บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ทางธรรมชาติ กระดาษ หรือบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งในโอกาส 5 มิถุนายน 2025 เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก และปีนี้เน้นเรื่อง การยุติมลพิษจากพลาสติก (Ending Plastic Pollution) ส่งเสริมแนวทาง “ลดใช้ รีไซเคิล และเลือกทางเลือกที่ยั่งยืน”
สอดคล้องกับแนวนโยบายของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ที่นำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมการใช้วัสดุที่ทดแทนได้จากแหล่งที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน เพิ่มสัดส่วนวัสดุรีไซเคิลโดยไม่ลดทอนคุณภาพหรือความปลอดภัยของอาหาร ลดการเกิดของเสีย และส่งเสริมระบบนำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่หรือแปรรูปเป็นพลังงาน
นางนลินี โรบินสัน ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารซีพีเอฟ (CPF RD Center) เปิดเผยว่า หัวใจสำคัญของบรรจุภัณฑ์ซีพีเอฟ คือ การออกแบบอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าหมายให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดของผลิตภัณฑ์อาหารสามารถรีไซเคิล ใช้ซ้ำ หรือย่อยสลายได้ 100% ภายในปี 2030 ซึ่งขณะนี้ทำได้แล้วกว่า 85% และยังคงเร่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น การใช้วัสดุแบบโมโนแมททีเรียล (Mono-material) กับสินค้าอาหารแปรรูปต่างๆ เช่น ไส้กรอก ไข่ต้ม ไข่สมุนไพร Meat Zero และ Authentic Asia ไปจนถึงกลุ่มสินค้าแช่แข็งแบรนด์ CP Selection ซึ่งช่วยให้การแยกรีไซเคิลทำได้ง่าย ลดการปนเปื้อน และสนับสนุนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างแท้จริง รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ใช้พลาสติกน้อยลง แต่ยังคงคุณภาพและความแข็งแรงเท่าเดิม สะท้อนความเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์อาหารที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความยั่งยืน
ซีพีเอฟยังส่งเสริมการใช้วัสดุทางเลือกที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ เช่น กระดาษที่ได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council (FSC) กับผลิตภัณฑ์แบรนด์คิตเช่น จอย (Kitchen Joy) ที่ส่งออกไปยังหลายประเทศ ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าวัสดุดังกล่าวไม่ได้มาจากการตัดไม้ทำลายป่า แต่สนับสนุนการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 โดยในปีนี้ ซีพีเอฟตั้งเป้าให้บรรจุภัณฑ์กระดาษสำหรับสินค้า 550 รายการ ได้รับการรับรองมาตรฐาน FSC ทั้งหมด
ไม่หยุดแค่นั้น ซีพีเอฟกำลังพัฒนาลูกเล่นสุดล้ำอย่าง AR (Augmented Reality) ให้ผู้บริโภคเพียงแค่สแกนก็สามารถเรียนรู้เบื้องหลังความยั่งยืนของอาหารแต่ละกล่องได้แบบสนุกๆ และอินเทอร์แอคทีฟ ทั้งให้ความรู้ สร้างความเพลิดเพลิน และกระตุ้นการมีส่วนร่วม เป็นมิติใหม่ของการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค
ทั้งหมดนี้คือการส่งต่อความตั้งใจของซีพีเอฟในการผลิตอาหารที่นอกจากจะ “ดีต่อกาย” เพราะทุกวัตถุดิบผ่านการคัดสรรอย่างปลอดภัย สดใหม่ และผลิตตามมาตรฐานสูงสุดแล้ว ยัง “ดีต่อใจ” เพราะผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าอาหารจากซีพีเอฟ ไม่ได้อร่อยแค่ในจาน แต่ยังมาจากกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและโลกใบนี้อย่างแท้จริง. /
