เกี่ยวกับซีพีเอฟ
เกี่ยวกับซีพีเอฟ
ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพบนมาตรฐานการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและกระบวนการทำงานที่รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
เกี่ยวกับซีพีเอฟ สำหรับบุคลากร
ธุรกิจ
ธุรกิจ ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สะอาดถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้
ภาพรวมธุรกิจ
บรรษัทภิบาล
บรรษัทภิบาล
พัฒนาการความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ทางธุรกิจและเติมเต็มความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าร่วมในระยะยาวอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
our mision
สารถึงผู้ถือหุ้น
บริษัทยังคงพยายามอย่างเต็มกำลังในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เพื่อเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนสัมพันธ์
นักลงทุนสัมพันธ์
บริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างผลตอบแทนด้วยความใส่ใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อันจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
นักลงทุนสัมพันธ์ ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ความยั่งยืน
เพื่อเสริมสร้าง “ศักยภาพและโอกาสการเติมโต“ สู่ “การสร้างคุณค่าร่วมกับทุกภาคส่วน“
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
sustainability
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
ซีพีเอฟขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักความรับผิดชอบต่อสังคมสู่ความยั่งยืนภายใต้ 3 เสาหลัก “อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่“
สื่อเผยแพร่
สื่อเผยแพร่
ศูนย์ข่าวสารซีพีเอฟ นำเสนอเรื่องราวครอบคลุมทั้งความยั่งยืน นวัตกรรม ข่าวสารอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ
สื่อเผยแพร่
media-center
สื่อเผยแพร่
ติดตามข่าวสารล่าสุด และเรื่องราวดีๆ จากซีพีเอฟได้ที่นี่
THAI
ซีพีเอฟ มุ่งมั่นบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามแนวทาง Eco-Efficiency พร้อมปันน้ำช่วยเกษตกร
31 ม.ค. 2563
ซีพีเอฟ มุ่งมั่นบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามแนวทาง Eco-Efficiency พร้อมปันน้ำช่วยเกษตกร

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ตลอดกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยลดปริมาณการใช้น้ำ และนำน้ำที่ใช้แล้วหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำจากธรรมชาติ พร้อมปันน้ำจากฟาร์มและโรงงานช่วยเหลือเกษตรกรบรรเทาภัยแล้ง

   

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ   ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ  เปิดเผยว่า บริษัทฯตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำซึ่งเป็นหัวใจหลักในการผลิตของภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม มีการบริหารจัดการน้ำด้วยความรอบคอบให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุดตลอดกระบวนตลอดห่วงโซ่การผลิต ตามแนวทาง Eco-Efficiency ซึ่งเป็นการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของธุรกิจและการรักษาระบบนิเวศโดยการลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน สู่เป้าหมายการลดปริมาณการใช้น้ำจากธรรมชาติ

 

ซีพีเอฟ มีเป้าหมายลดปริมาณการดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิต 25% ในปี 2563 และ 30% ในปี  2568 ตามลำดับ และมีการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน 3 แนวทาง คือ 1.การประเมินความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำเป็นประจำทุกปี ตามหลักการของ Aqueduct ซึ่งเป็นหน่วยงานประเมินความเสี่ยงสากลด้านน้ำ 2.การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ และ 3.การกระจายน้ำที่บำบัดแล้วจากฟาร์มปศุสัตว์และโรงงานแปรรูปอาหาร ให้กับชุมชนและเกษตรกรรอบโรงงานเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำ

 

ทั้งนี้ ข้อมูลจากการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงด้านน้ำของบริษัทและคู่ค้าธุรกิจ จะช่วยลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับชุมชนโดยรอบในสภาวะแล้ง ขณะที่การนำน้ำที่บำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่จะช่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยในปี 2561 บริษัทฯมีน้ำที่ผ่านการบำบัดและนำกลับมาใช้ใหม่จำนวน 28 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 18% ของปริมาณการดึงน้ำมาใช้ทั้งหมด ทั้งยังส่งผลให้การดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตของบริษัทฯลดลง 32% เมื่อเทียบกับปีฐาน 2558

 

“บริษัทฯ ได้ย้ำให้ทุกธุรกิจของบริษัทฯทั่วประเทศปฏิบัติตามมาตรการจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและดูแลการปล่อยน้ำที่บำบัดแล้วไปช่วยเหลือชุมชนรอบฟาร์มและโรงงาน” นายประสิทธิ์ กล่าว

 

ในปี 2561 ฟาร์มกุ้งของ ซีพีเอฟ ลดการใช้น้ำได้ 23 ล้านลูกบาศก์เมตร จากการพัฒนาและปรับปรุงวิธีการเลี้ยงอย่างเหมาะสมและนำเทคโนโลยีรีไซเคิล (Recycle) เพื่อนำน้ำจากกระบวนการเลี้ยงไปหมุนเวียนใช้ในฟาร์ม โดยไม่มีการปล่อยน้ำจากฟาร์มสู่สิ่งแวดล้อม  (Zero Discharge) ทำให้ลดการนำน้ำจากภายนอกมาใช้ 70-75 % เมื่อเทียบกับการเลี้ยงกุ้งแบบเดิม  ตลอดจนการนำเทคโนโลยีไบโอฟลอค (Biofloc Technology) มาช่วยจัดการของเสียในบ่อเลี้ยงกุ้ง  ลดการเปลี่ยนถ่ายน้ำระหว่างการเลี้ยง  ส่งผลให้การใช้น้ำลดเหลือเพียง 1.5 ลูกบาศก์เมตรต่อกุ้ง  1 กิโลกรัม เปรียบเทียบกับการเลี้ยงกุ้งโดยทั่วไปที่น้ำหนักเท่ากันต้องใช้น้ำ 5 ลูกบาศก์เมตร

 

สำหรับฟาร์มสุกรและฟาร์มไก่เนื้อมีการใช้น้ำอย่างประหยัดด้วยการปฏิบัติตามมาตรฐานการกินและใช้น้ำต่อตัวสัตว์ ตลอดจน ตรวจสอบอุปกรณ์ส่งน้ำในฟาร์มให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ เป็นต้น โดยในปี 2561 สามารถส่งน้ำที่บำบัดแล้วช่วยเหลือเกษตรกรรอบฟาร์มและโรงงานเพื่อใช้ในการเพาะปลูกจำนวน 380,000 ลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร 3,650 ไร่ โดยน้ำที่ใช้จากการเลี้ยงสุกรเมื่อนำเข้าสู่กระบวนการหมักในระบบไบโอแก๊ส ได้แก๊สมีเทนไปใช้เป็นพลังงานทดแทนในฟาร์ม ส่วนน้ำที่ได้หลังจากการบำบัดมีธาตุอาหารที่พืชต้องการ คือ ไนไตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม เป็นน้ำปุ๋ยส่งให้เกษตรกรสวนผลไม้ ไร่อ้อย มันสำปะหลัง นอกจากช่วยลดปริมาณการใช้น้ำของเกษตรกรแล้ว ยังช่วยเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนค่าปุ๋ยด้วย    

 

นายประสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ซีพีเอฟ ยังให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูผืนป่า “เขาพระยาเดินธง” ในจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำป่าสัก ผืนป่าที่สมบูรณ์จะช่วยเพิ่มระดับความชุ่มชื้นและปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสัก เพื่อรักษาสมดุลธรรมชาติอย่างยั่งยืน

 

นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังเดินหน้าสู่องค์กร “คาร์บอนต่ำ” มีเป้าหมายจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 25% ในปี 2568 จากปีฐาน 2558 ซึ่งให้ความสำคัญการลดการปล่อยก๊าซฯทั้งในกระบวนการผลิตและจากการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียนจากโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ โครงการพลังงานจากชีวมวล โครงการโซล่าร์รูฟท็อปจำนวน 25 โรงงาน และโครงการนวัตกรรมอาหารสุกรรักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได-

อ๊อกไซด์ได้เฉลี่ยปีละ 522,000 ตันต่อปี โดยในปี 2562 บริษัทฯ เพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็น 25% ของการใช้พลังงานทั้งหมด

 

ซีพีเอฟ ยังได้นำแนวทาง “Neutral Carbon” ไปใช้ในการจัดกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการ เดิน-วิ่งการกุศล ด้วยการนำคาร์บอนเครดิตที่บริษัทฯสะสมไว้ในโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand  Voluntary  Emission  Reduction  Program :  T-VER)  จำนวน 560  ตันคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เทียบเท่า  มาชดเชยกับก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากการใช้พลังงานไฟฟ้าในการจัดงาน การเดินทางของผู้เข้าร่วมงาน การพักแรม อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งสิ่งเหลือทิ้งจากการจัดงาน ให้เท่ากับศูนย์ โดยจะเริ่มดำเนินการในปี 2563.

กิจกรรมอื่น ๆ
ซีพีเอฟ จับมือ กรุงเทพโปรดิวซ์ รณรงค์หยุดเผา แจ้งเบาะแสเผาแปลงข้าวโพด ผ่านแอป ฟอร์ ฟาร์ม  หวังพิชิตฝุ่น PM2.5
26 มี.ค. 2567
ซีพีเอฟ จับมือ กรุงเทพโปรดิวซ์ รณรงค์หยุดเผา แจ้งเบาะแสเผาแปลงข้าวโพด ผ่านแอป ฟอร์ ฟาร์ม  หวังพิชิตฝุ่น PM2.5
22 มี.ค. วันน้ำโลก “ซีพีเอฟ” ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ร่วมอนุรักษ์น้ำ ตลอดห่วงโซ่การผลิต
22 มี.ค. 2567
22 มี.ค. วันน้ำโลก “ซีพีเอฟ” ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ร่วมอนุรักษ์น้ำ ตลอดห่วงโซ่การผลิต
ผลิตภัณฑ์ซีพีเอฟ 584 รายการ ได้ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์จาก อบก. หนุนลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
22 มี.ค. 2567
ผลิตภัณฑ์ซีพีเอฟ 584 รายการ ได้ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์จาก อบก. หนุนลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
47 ปี “หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า จ.ฉะเชิงเทรา”
12 มี.ค. 2567
47 ปี “หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า จ.ฉะเชิงเทรา”
cpfworldwide.com ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)
x