

ซีพีเอฟวางเป้าหมายยอดขายปี 59 เติบโตต่อเนื่อง 10-15 % หลังผลประกอบการ ปี 58 กำไร 1.11 หมื่นล้านบาท พร้อมจ่ายปันผลอีกหุ้นละ 0.45 บาท
คุณอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงทิศทางของซีพีเอฟในปี 2559 นี้ โดยคาดการณ์ว่า ยอดขาย และกำไรจะเติบโตประมาณ 10- 15 % เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณที่ดี ทั้งจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีราคาไม่แพง ซึ่งในครึ่งปีแรกนี้ ทั้งอเมริกา และบราซิล มีผลผลิตเหลือใช้ ขณะเดียวกัน กุ้ง เริ่มมีผลการเลี้ยงที่ดี ทำให้ลูกกุ้งและอาหารกุ้งขายได้มากขึ้น นอกจากนี้ หมูในจีนมีราคาแพง และไก่เนื้อในสหรัฐฯที่มีปัญหาหวัดนก ทำให้กระทบต่อปริมาณพ่อแม่พันธุ์ ส่งผลให้ซัพพลายขาดความต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้มีราคาที่ดีขึ้น
คุณอดิเรก กล่าวว่า ในปีนี้ซีพีเอฟมีแผนใช้เงินทุนรวม 15,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมกับการซื้อกิจการ ในส่วนของวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีราคาไม่แพง เป็นสัญญาณที่ดี ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีการเติบโตทั้งด้านยอดขาย และราคาที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะซบเซา รวมทั้งเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว
คุณอดิเรก กล่าวด้วยว่า ธุรกิจของซีพีเอฟที่ลงทุนในต่างประเทศ คิดเป็น 2 ใน 3 ของยอดขายรวมของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายที่สูงกว่าตลาดในประเทศ โดยเฉพาะในเวียดนาม ที่มียอดขายในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 15 % สำหรับยอดขายในจีนแม้จะลดลงเล็กน้อยในปีที่ผ่านมา แต่ยังคงมีกำไร
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟประจำปี 58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีกำไรสุทธิ 1.11 หมื่นลบ. หรือมีกำไรต่อหุ้น 1.50 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 4.70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.06 หมื่นลบ.หรือมีกำไรต่อหุ้น 1.43 บาท
โดยคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปีอีกจำนวน 0.45 บาทต่อหุ้น ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายไปแล้วจำนวน 0.30 บาทต่อหุ้น จะมีการจ่ายปันผลรวมทั้งสิ้นสำหรับปี 2558 จำนวน 0.75 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ไม่ได้รับสิทธิปันผล ในวันที่ 28 เม.ย. 59 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19พ.ค. 59