เกี่ยวกับซีพีเอฟ
เกี่ยวกับซีพีเอฟ
ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพบนมาตรฐานการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและกระบวนการทำงานที่รับผิดชอบต่อสังคมโดยรวม
เกี่ยวกับซีพีเอฟ สำหรับบุคลากร
ธุรกิจ
ธุรกิจ ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการ สะอาดถูกสุขอนามัย ปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้
ภาพรวมธุรกิจ
บรรษัทภิบาล
บรรษัทภิบาล
พัฒนาการความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโต ทางธุรกิจและเติมเต็มความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าร่วมในระยะยาวอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
our mision
สารถึงผู้ถือหุ้น
บริษัทยังคงพยายามอย่างเต็มกำลังในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร เพื่อเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนสัมพันธ์
นักลงทุนสัมพันธ์
บริษัทมุ่งเน้นที่จะสร้างผลตอบแทนด้วยความใส่ใจให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน อันจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
นักลงทุนสัมพันธ์ ติดต่อนักลงทุนสัมพันธ์
ความยั่งยืน
ความยั่งยืน
เพื่อเสริมสร้าง “ศักยภาพและโอกาสการเติมโต“ สู่ “การสร้างคุณค่าร่วมกับทุกภาคส่วน“
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
sustainability
ซีพีเอฟกับความยั่งยืน
ซีพีเอฟขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักความรับผิดชอบต่อสังคมสู่ความยั่งยืนภายใต้ 3 เสาหลัก “อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่“
สื่อเผยแพร่
สื่อเผยแพร่
ศูนย์ข่าวสารซีพีเอฟ นำเสนอเรื่องราวครอบคลุมทั้งความยั่งยืน นวัตกรรม ข่าวสารอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่นๆ
สื่อเผยแพร่
media-center
สื่อเผยแพร่
ติดตามข่าวสารล่าสุด และเรื่องราวดีๆ จากซีพีเอฟได้ที่นี่
THAI

ปัจจุบันปริมาณก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากภาคธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาคพลังงาน ภาคเกษตรกรรม ภาคกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรม และภาคการจัดการของเสีย เป็นต้น ส่งผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังก่อให้เกิดความแปรปรวนของภูมิอากาศอย่างรุนแรง ฤดูกาลที่ผันผวนและเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น อันส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหาร เนื่องจากปริมาณและคุณภาพของผลผลิตขึ้นกับสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งส่งผลต่อความเป็นอยู่ของมนุษย์ การควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจึงเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จากความร่วมมือกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) ที่ประเทศต่างๆ ตั้งเป้าหมายร่วมกันขั้นพื้นฐานที่จะรักษาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และมีความพยายามที่การจำกัดให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกต่ำกว่าหรือใกล้เคียงกับ 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถลดผลกระทบทางลบต่อระบบนิเวศ สุขภาพและสุขภาวะของมนุษย์ได้ได้มากกว่าเมื่อเทียบกับจำกัดที่ 2 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็นความท้าทายต่อการบริหารจัดการในทุกภาคส่วน บริษัทจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแสวงหาและพัฒนาแนวทางการมีส่วนร่วมบรรเทาและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ซีพีเอฟจำเป็นต้องประเมินความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจสอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบริษัทได้นำแนวปฏิบัติการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ หรือ The Recommendation of Taskforces on Climate-related Financial Disclosure (TCFD) มาเป็นแนวทางในการประเมินความเสี่ยงและโอกาสอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงเป็นแนวทางในการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศต่อผู้ลงทุนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อนำไปวิเคราะห์ความสามารถของบริษัทในการรับมือกับความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ซีพีเอฟ Net-Zero Journey

เราภูมิใจที่เป็นบริษัทผลิตอาหารบริษัทแรกในโลกที่ได้รับอนุมัติทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว สอดคล้องตามมาตรฐาน Forest, Land and Agriculture (FLAG) ซึ่งเป็นมาตรฐานเฉพาะสำหรับภาคเกษตรและอาหาร จากองค์กร the Science Based Targets initiative (SBTi) เทียบกับปีฐาน 2563 บริษัทตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจก 42% และ 90% สำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภท non-FLAG ภายในปี 2573 และปี 2593 ตามลำดับ รวมทั้ง 30.3% และ 72% สำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภท FLAG ภายในปี 2573 และปี 2593 ตามลำดับ นอกจากนี้เรายังกำหนดเป้าหมายต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่าสำหรับวัตถุดิบหลักที่มีความเชื่อมโยงกับการตัดไม้ทำลายป่า ภายในปี 2568

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ซีพีเอฟ Net-Zero Journey

การประเมินผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจ: ต้นทุนคาร์บอนที่ส่งผลกระทบต่อสังคม (Social Cost of Carbon)

ซีพีเอฟตระหนักถึงความสำคัญของการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนของเรา จึงได้มีการติดตามผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านตัวชี้วัดที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เช่น ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยซีพีเอฟได้กำหนดเป้าหมายในการมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังได้ประเมินต้นทุนคาร์บอนที่ส่งผลกระทบต่อสังคม (Social Cost of Carbon) ซึ่งอ้างอิงจาก International Business Council Guidance จัดทำโดย World Economic Forum ต้นทุนคาร์บอนที่ส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นการวัดมูลค่าทางการเงิน ของผลกระทบสุทธิในเชิงลบที่เกิดต่อสังคมจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในแต่ละปี โดยมูลค่าดังกล่าวคำนึงจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงปริมาณผลผลิตทางการเกษตร ผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์ ความเสียหายต่อทรัพย์สินจากน้ำท่วมและภัยธรรมชาติ การหยุดชะงักของระบบพลังงาน ความเสี่ยงในการเกิดความขัดแย้ง การอพยพอันเนื่องมาจากสิ่งแวดล้อม และคุณค่าของบริการทางระบบนิเวศที่สูญเสียไป

ต้นทุนคาร์บอนที่ส่งผลกระทบต่อสังคมถูกประเมินไว้ที่ 4,456.31 บาทต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าหรือ 129 USD ต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าในปี 2565 ซึ่งพิจารณาจากอัตราคิดลดที่ร้อยละ 2

ในปี 2565 การพื้นที่ดำเนินงานที่อยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงของซีพีเอฟใน 8 ประเทศ มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1,197,647 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ดังนั้นจึงมีต้นทุนคาร์บอนที่ส่งผลกระทบต่อสังคม คิดเป็นมูลค่า 6,610 ล้านบาท

cpfworldwide.com ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์นี้เพื่อการบริหารเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของท่าน (เรียนรู้เพิ่มเติม)
x