2564 (บาท) | 2565 (บาท) | 2566 (บาท) | 2567 (บาท) | |
---|---|---|---|---|
การโน้มน้าวหรือชักชวนเพื่อการเปลี่ยนแปลง หรืออย่างอื่นที่คล้ายกัน | 0 | 0 | 0 | 0 |
การรณรงค์ / สมาคม / ผู้สมัครทางการเมืองระดับท้องถิ่น ภูมิภาค หรือประเทศ | 0 | 0 | 0 | 0 |
สมาคมการค้าหรือกลุ่มที่ได้รับการยกเว้นภาษี (เช่น กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ) | 6,515,265 | 8,080,204 | 8,268,738 | 9,516,392 |
อื่นๆ (เช่น การใช้จ่ายที่เกี่ยวกับมาตรการการลงคะแนนเสียงหรือประชามติ | 0 | 0 | 0 | 0 |
รวม | 6,515,265 | 8,080,204 | 8,268,738 | 9,516,392 |
สมาคมและสถาบัน | รายละเอียด | บาท | |
---|---|---|---|
1 | สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อการส่งออกไทย | สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทยก่อตั้งเมื่อปี พ. ศ. 2534 เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยงานควบคุมและให้บริการสำหรับผู้ผลิตและส่งออกเนื้อไก่จำนวนมาก สมาชิกสมาคมทั้งหมดเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกของไทยซึ่งมีประวัติอันยาวนานหลายสิบปีในอุตสาหกรรมไก่ สมาคมฯเป็นที่รู้จักดีในฐานะผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไก่ เกรดพรีเมี่ยมแก่ลูกค้าทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลีใต้ ตะวันออกกลาง ประเทศในสหภาพยุโรป แอฟริกาใต้ เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.thaipoultry.org/?p=home&lang=TH | 4,469,713 |
2 | สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย | สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร เริ่มต้นจากการรวมตัวของกลุ่มพ่อค้าวานิชที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือในการพัฒนาวงการปศุสัตว์ไทย จัดตั้งชมรมผู้ผลิตอาหารสัตว์ และพัฒนาสถานะของชมรมเป็น สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และได้ขึ้นทะเบียนตามระเบียบของกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2521 มีวัตถุประสงค์หลักคือ การเป็นศูนย์กลางความร่วมมือของผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยในการแก้ปัญหาต่างๆ ของธุรกิจอาหารสัตว์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคปศุสัตว์ไทย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.thaifeedmill.org/ | 2,278,554 |
3 | สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย | สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้รับการยอมรับทั่วไป ในฐานะตัวแทนภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐบาล ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ และเสริมสร้างความเข้มแข็งและผลิตภาพอุตสาหกรรมไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของไทยให้ยั่งยืน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.fti.or.th | 436,256 |
-
ภาคีปศุสัตว์และสัตว์น้ำไทยเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน:
ซีพีเอฟ ในฐานะผู้นำในภาคีปศุสัตว์และสัตว์น้ำไทย ได้ส่งเสริมความร่วมมือที่หลากหลายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรม เน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมปศุสัตว์และสัตว์น้ำภายในปี 2583 ซึ่งช่วยสนับสนุนเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero emissions) ของประเทศ หนึ่งในความร่วมมือดังกล่าวได้แก่ การลงนามความร่วมมือโครงการด้านการลดก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่อุตสาหกรรมปศุสัตว์ไทย (Thai Livestock Technical Consortium for Climate Neutrality, LCCN) กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) แนวทางการดำเนินงานประกอบด้วย การจัดทำข้อมูลปีฐาน การวิเคราะห์วัฏจักรชีวิต และการวัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Gas chromatography) และการศึกษาการประยุกต์การดักจับก๊าซด้วยเทคโนโลยี Carbon Capture, Utilization and Storage (CCUS) เพื่อจัดการก๊าซมีเทน ไนโตรเจนไดออกไซด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการปศุสัตว์ ความร่วมมือดังกล่าวช่วยให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันและเตรียมพร้อมต่อกฎระเบียบด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่อาจเข้มงวดขึ้นในอนาคตในปี 2567 ซีพีเอฟได้เสนอให้ TLAC ขยายความร่วมมือจาก 13 เป็น 15 สมาคม และได้จัดตั้งคณะทำงาน 2 กลุ่มสำหรับวัตถุดิบอาหารสัตว์หลัก ได้แก่ กลุ่มข้าวโพด และปลาป่นในปี 2568 โครงการวัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากข้าวโพดของ TLAC ได้รับการบรรจุเป็นกิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการ SCALA (โครงการร่วมระหว่าง FAO และ UNDP) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมระบบเกษตรอัจฉริยะด้านภูมิอากาศ (Climate-Smart Agriculture - CSA) เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบในพืชไร่และปศุสัตว์ของประเทศไทย -
Thailand Taxonomy กรอบการจำแนกกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ในปี 2566 ประเทศไทยเริ่มนำระบบ Taxonomy เข้ามาใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงในการจำแนกประเภทกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปล่อยคาร์บอนต่ำและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย Thailand Taxonomy ระยะที่ 1 เป็นการจัดระบบการจัดหมวดหมู่กิจกรรมเพื่อวัตถุประสงค์ในการลดก๊าซเรือนกระจก (climate change mitigation) และครอบคลุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคพลังงานและภาคการขนส่ง ซึ่งมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมสูงที่สุดในประเทศไทย โดยการจัดทำนี้ได้รับการสนับสนุนจากบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation: IFC) และมีองค์กร Climate Bonds Initiative (CBI) เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคและในปี 2567 ประเทศไทยได้เริ่มพัฒนา Thailand Taxonomy ระยะที่ 2 อย่างเป็นทางการโดยได้รับการสนับสนุนจาก IFC ภายใต้โครงการความร่วมมือทางเทคนิคด้านตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Bond Technical Assistance Program) ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสวีเดน จากองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) และจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) Thailand Taxonomy ระยะที่ 2 ได้ขยายขอบเขตให้ครอบคลุมอีก 4 ภาคเศรษฐกิจ คือ ภาคการเกษตร (รวมถึงป่าไม้) ภาคอาคารและอสังหาริมทรัพย์ ภาคอุตสาหกรรมการผลิต และภาคการจัดการของเสีย โดยมี CBI และ DNV (Det Norske Veritas องค์กรรับรองมาตรฐานระหว่างประเทศชั้นนำ) เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิคซีพีเอฟเข้ามามีส่วนร่วมผ่านสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยผู้แทนจากซีพีเอฟเข้าร่วมเป็นคณะทำงานจัดทำ Thailand Taxonomy ภาคเกษตร ซึ่งมีกลุ่มย่อย คือ- พืชยืนต้นทั่วไปหรือพืชที่ไม่ใช่พืชไม้ยืนต้น
- การปลูกข้าวยั่งยืน
- การปลูกอ้อยอย่างยั่งยืน
- การปลูกปาล์มน้ําอย่างยั่งยืน
- การปลูกยางพาราอย่างยั่งยืน
- ปศุสัตว์
ทั้งนี้ จากการร่วมพัฒนาในคณะทำงานฯ ผู้แทนจากซีพีเอฟได้เสนอให้ CBI พิจารณาเพิ่มเติมธุรกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําอย่างยั่งยืนเป็น subsector ตามเป้าหมายได้สำเร็จ เนื่องด้วยกิจกรรมในฟาร์มสัตว์น้ำของประเทศไทยมีแนวปฏิบัติที่ดีที่สามารถพัฒนาให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้
สมาคม/ สถาบัน | รายละเอียด | |
---|---|---|
1 | The Science Based Target initiative (SBTi) | ซีพีเอฟมุ่งมั่นสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตลอดห่วงโซ่คุณค่าภายในปี 2593 และเป็นบริษัทผลิตอาหารแห่งแรกในโลก ที่ได้รับอนุมัติทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว สอดคล้องตามมาตรฐาน Forest, Land and Agriculture (FLAG) ซึ่งเป็นมาตรฐานเฉพาะสำหรับภาคเกษตรและอาหาร จากองค์กร the Science Based Targets initiative (SBTi) เทียบกับปีฐาน 2563 ซีพีเอฟตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 42% และ 90% สำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภท non-FLAG ภายปี 2573 และปี 2593 ตามลำดับ รวมทั้ง 30.3% และ 72% สำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภท FLAG ภายปี 2573 และปี 2593 ตามลำดับ นอกจากนี้เรายังกำหนดเป้าหมายต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่าสำหรับสินค้าหลักที่มีความเชื่อมโยงกับการตัดไม้ทำลายป่า ภายในปี 2568 |
2 | สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (WBCSD) โครงการด้านเกษตรและอาหาร หรือ Agriculture and Food Pathway (F&A) | ความร่วมมือระดับโลกของสมาชิกในการหาวิธีการทางธุรกิจที่ก้าวหน้าเพื่อปรับเปลี่ยนระบบเกษตรและอาหาร ให้บรรลุระบบอาหารฟื้นฟูและมีความเสมอภาค บริษัทเป็นสมาชิกที่มีบทบาทในกลุ่มการทำงานด้านเกษตรกรรมและอาหาร ซึ่งมุ่งเน้นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านนวัตกรรม การเกษตรที่ยั่งยืน และอาหารที่ยั่งยืน WBCSD มีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอกับผู้กำหนดนโยบาย เพื่อเป็นตัวแทนของภาคเอกชนในการผลักดันการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศทั่วโลก |
3 | สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT) | บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายท้องถิ่นในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญระดับโลกด้านความยั่งยืน เครือข่ายนี้ทำงานร่วมกันเพื่อวางแผนกลยุทธ์และผลันดันการดำเนินงาน มุ่งบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสังคม โดยเน้นด้านสิ่งแวดล้อมในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เครือข่ายนี้ช่วยให้มีการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดและโอกาสในการร่วมกันขับเคลื่อนความมุ่งมั่นระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศไทย นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐอย่างสม่ำเสมอเพื่อเป็นตัวแทนของภาคเอกชนในการผลักดันการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับ ESG |
4 | โครงการ Seafood Business for Ocean Stewardship (SeaBOS) | Seafood Business for Ocean Stewardship หรือ SeaBOS เกิดจากความร่วมมือระหว่างภาคส่วนที่หลากหลายในอุตสาหกรรมอาหารทะเลโลก โดยมีบริษัทอาหารทะเลขนาดใหญ่ที่สุด 8 แห่งของโลกเข้าร่วมทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในการก้าวสู่การผลิตอาหารทะเลที่ยั่งยืน มหาสมุทรที่มีความอุดมสมบูรณ์ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ความร่วมมือนี้ทำงานผ่านคณะทำงานในหลายมิติ หนึ่งในนั้นคือความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยก๊าซให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมในการดำเนินงานและห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการเปิดเผยผลการดำเนินงานต่อสาธารณะ |
5 | เครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย (TSCN) | ซีพีเอฟ พร้อมด้วยบริษัทเอกชนชั้นนำ 8 บริษัท ร่วมก่อตั้งเครือข่ายธุรกิจห่วงโซ่อุปทานแห่งประเทศไทย ในปี 2562 โดยมีวัตถุประสงค์มุ่งสร้างความร่วมมือระหว่างบริษัทผู้ประกอบการ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้และประสบการณ์ โดยเครือข่ายสนับสนุนธุรกิจไทยในการปฏิบัติตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตลอดห่วงโซ่อุปทานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซีพีเอฟมีบทบาทอย่างยิ่งในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งเน้นการบูรณาการกรอบ ESG การเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และการติดตามกฎระเบียบที่เกิดขึ้นใหม่ เครือข่ายยังเปิดโอกาสให้สมาชิกแลกเปลี่ยน มีส่วนร่วม และมีส่วนร่วมในการร่างนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศอย่างสม่ำเสมอ |
6 | สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (TIPMSE) | สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม หรือ TIPMSE เป็นองค์กรที่ถูกก่อตั้งด้วยความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน และกลุ่มอุตสาหกรรมภายใต้การกำกับดูแลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมุ่งลดปริมาณบรรจุภัณฑ์ใข้แล้วในขยะทั่วประเทศ สถาบันส่งเสริมระบบการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วและวัสดุรีไซเคิลที่เหมาะสม เน้นให้ขยะบรรจุภัณฑ์ถูกจัดการและรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียน และมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในวงจรชีวิตบรรจุภัณฑ์ (Packaging lifecycle) |
7 | คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย) | ที่ปรึกษาซีพีเอฟและผู้แทนสำนักติดตามกฎระเบียบการค้า ได้เป็นตัวแทนสภาหอการค้าฯ และสภาอุตสาหกรรมฯ เข้าร่วมเป็นคณะทำงานด้าน Climate Change เพื่อจัดทำข้อเสนอของภาคธุรกิจในการติดตามและผลักดันนโยบายของไทยที่สนับสนุนเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของไทยและภาคธุรกิจ รวมถึงการให้ความเห็นต่อการ พรบ. Climate change และมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง |
8 | สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย |
- ผู้แทนสำนักติดตามกฎระเบียบการค้า ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนหลักของสภาหอการค้าฯ ด้านการลดก๊าซเรือนกระจกด้านเกษตร และได้เข้าร่วมเป็นอนุกรรมการ ในคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศด้านการเกษตรของไทย กำหนดเป้าหมายภาคเกษตรเพื่อบรรจุใน National Determined Contributions ของประเทศ - นำเสนอให้มีการยกระดับความเข้าใจเรื่องการลด GHG ภาคเกษตรต้นน้ำให้มากขึ้น ด้วยการจัดกิจกรรมต่อสมาชิกสภาหอการค้าฯ และเครือข่ายเกษตรกร เช่น สัมมนา, อบรม |
9 | สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย | ผู้แทนสำนักติดตามกฎระเบียบการค้า ได้เข้าร่วมเป็น คณะทำงานส่งเสริมและสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมในการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและสมาชิกสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม โดยผู้แทนฯ มุ่งเน้นให้สมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมฯ เข้าใจและดำเนินการวัดคาร์บอนในสินค้า เช่น ประสานหน่วยงานรัฐ เช่น องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ให้สนับสนุนด้านองค์ความรู้ |
10 | สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย |
ซีพีเอฟสนับสนุนนโยบายสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย มุ่งสู่การเป็นห่วงโซ่อุปทานปศุสัตว์ที่ยั่งยืน ดังนี้ 1. การผลักดันการลดก๊าซเรือนกระจกวัตถุดิบอาหารสัตว์ 3 ชนิด คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ข้าว โดยได้ร่วมมือกับภาคส่วนอื่นๆ ในการสนับสนุนการวัดและการลดฯ เชิงโครงการวิจัย เช่น - กรมวิชาการเกษตร (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง) : สมาคมมีมติมอบหมายที่ปรึกษา เป็นผู้แทนสมาคมเข้าร่วมกำหนดเนื้อหาโครงการกับกรมฯ - สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) : การประเมินความยั่งยืนการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และการปล่อย GHG 2. จัดตั้งสำนักงานปศุสัตว์ยั่งยืน ในสมาคมฯ โดยให้ผู้แทนสำนักติดตามกฎระเบียบการค้าเป็นผู้จัดการ ผู้จัดการสำนักงาน |
11 | สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย |
ซีพีเอฟ ร่วมสนับสนุนสมาคมผู้ผลิตไก่ส่งออกไทยในโครงการวิจัย ดังต่อไปนี้ - โครงการการประเมินความยั่งยืนในมิติด้านสิ่งแวดล้อมของการทำเกษตรเชิงพื้นที่ กรณีศึกษา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงราย (ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์) - โครงการลดก๊าซเรือนกระจกในห่วงโซ่ปศุสัตว์ไทย (ในส่วนการวัด GHG การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์) |
12 | สมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (สมาคมด้านธุรกิจปศุสัตว์และ กุ้ง ปลา รวม 11 สมาคม) | ยกระดับความเข้าใจสมาชิกของสมาพันธ์ฯ ด้วยการให้ข้อมูลและเชิญเข้าร่วมกิจกรรม เช่น ประชุมเชิงปฏิบัติการ: อุตสาหกรรมปศุสัตว์ไทยสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ |
13 | สมาคมผู้นำเข้าและผู้ส่งออกระดับมาตรฐานเออีโอ | ซีพีเอฟมอบหมายที่ปรึกษาเป็นนายกสมาคมฯ และนำเสนอให้สมาชิกมีความตระหนักเรื่องคาร์บอน และมีการจัดกิจกรรมให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง |
14 | โครงการ Project Gigaton ของ Walmart | ซีพีเอฟเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Project Gigaton ริเริ่มโดย Walmart ในปี 2560 โดยโครงการนี้เน้นการมีส่วนร่วมในการร่วมจัดการความท้าทายของสภาพภูมิอากาศ (Climate actions) ของคู่ค้า องค์กรเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์ (NGOs) และผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ มีวัตถุประสงค์เพื่อลดและหลีกเลี่ยงก๊าซเรือนกระจก จำนวน 1 พันล้านตัน (a gigaton) ในห่วงโซ่คุณค่าโลกภายในปี 2573 โดยในปี 2567 บริษัท C.P. Foods Product Inc., ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของซีพีเอฟได้รับรางวัลคู่ค้าด้านความยั่งยืน ‘Gigaguru’ |
15 | สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย (ESG Network) | สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทยเกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัทจดทะเบียนและบริษัทรับอนุญาต เพื่อสร้างพื้นที่ในการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนแนวคิดด้าน ESG รวมไปถึงการสนับสนุนการผนวกความยั่งยืนเข้าไปในการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทมุ่งทำงานร่วมกับภาคประชาสังคม และภาครัฐในการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกและความยั่งยืนในระดับประเทศ |