การมีส่วนร่วมของพนักงาน

บริษัทฯ ตระหนักว่าความสำเร็จขององค์กรต้องอาศัยความร่วมมือจากบุคลากรในทุกระดับ จึงมุ่งเน้นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพนักงานเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารทรัพยากรบุคคล เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสแสดงความคิด มีบทบาทในการพัฒนาองค์กร และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จร่วมกัน นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีทั้งทางกายและใจ ผ่านโครงการและกิจกรรมที่หลากหลาย พร้อมปลูกฝังความรู้สึกผูกพัน ความรัก และความภาคภูมิใจในองค์กร ซึ่งล้วนเป็นรากฐานที่นำไปสู่การทำงานอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน

ในปี 2567 บริษัทฯ มุ่งยกระดับความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรและพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงาน อย่างเป็นรูปธรรมภายใต้กรอบ “CPF@HEART” ซึ่งประกอบด้วย CPF WE CARE และ CPF LOVE&SHARE ครอบคลุม ทุกมิติของสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดี ให้พนักงานเติบโตไปกับองค์กรอย่างยั่งยืน

โครงการ CPF WE CARE มีรายละเอียดดังนี้

1. Care for Well-Being: ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของพนักงาน ผ่านแนวทางดังต่อไปนี้
1. การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้สอดคล้องวิถีชีวิต ส่งเสริมความยืดหยุ่นในการทำงานผ่านแนวทางที่หลากหลาย เช่น การปฏิบัติงานแบบยืดหยุ่น (Flexible Working Hour) เปิดโอกาสให้พนักงานเลือกช่วงเวลาการทำงานภายในกรอบเวลาที่กำหนด การทำงานแบบ Remote Work สำหรับหน่วยงานที่สามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ได้ โดยใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการสื่อสารและบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจ้างงานพาร์ทไทม์ (Part-time) โดยเฉพาะในธุรกิจร้านอาหาร ทั้งหมดนี้ช่วยให้พนักงานสามารถปรับเวลาทำงานให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันของตนเองได้ดีขึ้น ตอบสนองต่อความต้องการของพนักงานแต่ละคน ได้อย่างเหมาะสม
2. การจัดตั้งชมรมเพื่อส่งเสริมสุขภาวะทั้งทางกายและใจ ส่งเสริมให้พนักงานมีความสุขในการทำงานและใช้ชีวิตอย่างสมดุล ด้วยการจัดตั้งชมรมกว่า 19 ชมรม ครอบคลุมทุกมิติ พนักงานสามารถสมัครสมาชิกได้ตามความสนใจอย่างอิสระ โดยปีที่ผ่านมา ผลสำรวจความพึงพอใจต่อกิจกรรมและการสื่อสารสูงถึงร้อยละ 91 ซึ่งชมรมที่จัดตั้งขึ้นแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้
• ชมรมด้านกีฬา สนับสนุนสุขภาวะทางกายผ่านการออกกำลังกาย การอบรมทักษะกีฬา และการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ เช่น กิจกรรม “Run for Charity” ชมรมวิ่ง, การแข่งขันแบดมินตัน และฟุตบอล ชมรมแบดมินตัน และชมรมฟุตบอล เป็นต้น
• ชมรมกิจกรรมนันทนาการ เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิก ผ่านกิจกรรมด้านศาสนา สังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น กิจกรรมเก็บขยะทะเล ชมรมบำเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศวิถีชุมชน ชมรมท่องเที่ยวจิตอาสา กิจกรรมช่างภาพจิตอาสา ชมรมถ่ายภาพ เป็นต้น
• ชมรมเสริมสร้างสุขภาวะ ส่งเสริมความรู้ด้านการเงิน การออม การเตรียมความพร้อมก่อนเกษียณ และกิจกรรมสร้างการยอมรับความหลากหลาย เช่น กิจกรรมปลูกป่า ชมรมครอบครัวอบอุ่น, กิจกรรม Spreading Pride ชมรม LGBTQ+ กิจกรรมเตรียมความพร้อมสู่วัยเกษียณ ชมรม Happy Life เป็นต้น
2. Care for Benefits: จัดสรรสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการให้พนักงานทุกระดับสามารถเข้าถึงได้ เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี เช่น
1. สิทธิประโยชน์ทางด้านการเงิน ยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงาน ส่งเสริมการสร้างวินัยการออมเงินอย่างรอบด้าน อาทิ การจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, สวัสดิการเงินกู้ดอกเบี้ยถูก (ปลดหนี้ สร้างสุข) เป็นต้น
2. สิทธิประโยชน์ทางด้านสุขภาพ ส่งเสริมสุขภาพของพนักงานและครอบครัว อาทิ การตรวจสุขภาพประจำปีตามปัจจัยเสี่ยง ให้บริการปรึกษาแพทย์ผ่านแอปพลิเคชัน “หมอดี” ตลอด 24 ชั่วโมง กิจกรรมส่งเสริมให้พนักงานออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ พร้อมลุ้นรับรางวัล รวมถึงการป้องกันออฟฟิศซินโดรมและความเครียด โดยเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำถึงที่ทำงาน สำหรับพนักงานตั้งครรภ์ จะได้รับการปรับเวลาและสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม โดยได้รับสิทธิลาคลอดบุตร (Parental Leave) และวันลาเพื่อตรวจครรภ์ก่อนคลอด สำหรับพนักงานหญิงเป็นเวลา 98 วัน โดยได้รับค่าจ้าง (Paid Parental Leave for Primary) 45 วัน ตามที่กฏหมายกำหนด อีกทั้งพนักงานได้รับสิทธิการลาเพื่อดูแลครอบครัว (Paid family or care leave) และพนักงานชายได้รับสิทธิในการลาเลี้ยงดูบุตรแรกเกิด โดยได้รับค่าจ้าง (Paid Parental Leave for Non-Primary) เป็นเวลา 7 วัน พร้อมทั้งจัดสรรพื้นที่ส่วนตัวสำหรับปั๊มนม และให้ความรู้พร้อมเป็นคุณแม่โดยผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งสวัสดิการวันลาอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของพนักงาน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังจัดให้มีสถานที่ดูแล (Childcare facilities) เด็กเพื่ออำนวยความสะดวกแก่พนักงานที่มีบุตร โดยเปิดโอกาสให้สามารถนำบุตรมาฝากเลี้ยงในช่วงเวลาทำงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย บริษัทฯ ให้การสนับสนุนทั้งค่าใช้จ่าย รวมถึงวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งมีการตรวจสอบและปรับปรุงอุปกรณ์เสริมทักษะอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัยอย่างเหมาะสม
3. สิทธิประโยชน์ทางด้านการศึกษา สนับสนุนทุนการศึกษากว่า 80 ทุน สำหรับพนักงานและบุตร ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเร่งสร้างบุคลากรที่มีทักษะแห่งอนาคต ต่อยอดธุรกิจ พร้อมส่งต่อประสบการณ์ให้กับเพื่อนพนักงาน อีกทั้งสวัสดิการเงินยืมเพื่อการศึกษาสำหรับบุตรพนักงาน ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงปริญญาตรี สร้างโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำในระยะยาว
3. Care for Culture: ปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร ผ่านการสร้างคนดี คนเก่ง ให้คนรุ่นใหม่เรียนรู้จากประสบการณ์จริง โดยยึดหลักการ “ชี้แนะ ไม่ชี้นำ” พร้อมส่งเสริมวัฒนธรรมยอมรับความแตกต่างหลากหลาย ด้วยการสร้าง ecosystem ที่ผู้บริหารให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับนโยบายถึงการปฏิบัติจริงตลอดเส้นทางการทำงาน อีกทั้ง ได้รับการส่งเสริมให้เข้าใจธุรกิจและสามารถถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ สู่สาธารณะผ่านโครงการ Super KOL ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าร้อยละ 93 ของพนักงาน รู้สึกมีส่วนร่วมและตระหนักรู้ด้าน DEI มากขึ้น นอกจากนี้ ยังส่งเสริมวัฒนธรรมการชื่นชมกันในที่ทำงานผ่านกิจกรรม Thumbs Up ซึ่งมีผู้เข้าร่วมสะสมกว่า 65,000 ครั้ง
4. Care for Career: ส่งเสริมการเรียนรู้และความก้าวหน้าในสายอาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดโอกาสให้พนักงานพัฒนาตนเองผ่านแพลตฟอร์ม “Im-Ru” ที่รวบรวมหลักสูตรกว่า 700 รายการให้เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมทั้งเสริมสร้างทักษะและขยายขีดความสามารถ ผ่านการปฏิบัติงานจริง ด้วย 2 รูปแบบ ได้แก่ กิจกรรม “Opportunity Day” กำหนดเส้นทางอาชีพของตนเอง โดยหมุนเวียนงานไปยังตำแหน่งงานภายในที่สนใจ และ การหมุนเวียนงานเชิงกลยุทธ์ สำหรับผู้มีความสามารถสูง (Talent Successor) เพื่อยกระดับศักยภาพรอบด้านและเตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้นำในอนาคต อีกทั้งพัฒนาเสริมสร้างทักษะที่ตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิทัล เช่น หลักสูตร Gen AI เพื่อรองรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ต่อยอดความรู้จนเกิดเป็นโครงการจริงแล้วกว่า 700 โครงการ
   

   อีกทั้งยังมีโครงการ “CPF LOVE&SHARE” ที่สนับสนุนให้พนักงานแสดงออกถึงความรักและศรัทธาในองค์กร สามารถปกป้องแบรนด์ บอกต่อสิ่งดีๆ ได้ในสังคม ตลอดจนเข้าถึงสิทธิประโยชน์และส่วนลดพิเศษสำหรับตนเองและครอบครัว ดังนี้

   1. Employee Relationship Platform (ERP) จัดทำช่องทางสะสมคะแนนจากการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ โดยพนักงานสามารถแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆได้
   2. สิทธิประโยชน์และส่วนลดครอบครัว / เพื่อนพนักงาน สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการในเครือ เช่น ร้านอาหาร อุปกรณ์สื่อสาร เป็นต้น
   3. กิจกรรมการประชาสัมพันธ์สิทธิประโยชน์ รวมถึงกิจกรรมร่วมสนุกผ่านสื่อ Social Media ตามเทศกาลสำคัญตลอดปี

ในปี 2567 บริษัทฯร่วมมือกับ Gallup ที่ปรึกษาระดับสากลด้านการสำรวจความผูกพันพนักงาน เพื่อดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานทั่วทั้งองค์กร ประกอบด้วยคำถามที่ครอบคลุมทั้งสิ้น 12 ประเด็นหลัก อาทิ ความพึงพอใจในงานของพนักงาน เป้าหมายและพันธกิจในงานที่ทำ หรือการดูแลระหว่างบุคลากรภายในทีม เช่น สุขภาพกายใจ (การเจ็บป่วย ความเครียด) รวมถึงสถานการณ์ที่สัมพันธ์กับการทำงาน อาทิ ภาระงาน และโอกาสการพัฒนา เป็นต้น นอกจากนี้ในแบบสำรวจยังได้สอบถามถึงค่าคะแนน LOVE INDEX ซึ่งจะถามถึงความรัก ความภาคภูมิใจ และทำงานในองค์กรอย่างมีความสุขพร้อมจะแนะนำองค์กรให้กับเพื่อนและครอบครัว ทั้งนี้มีอัตราการเข้าร่วมสูงถึงร้อยละ 97 จากผลการสํารวจพบว่า บริษัทฯ มีค่าเฉลี่ยความผูกพันของพนักงาน (Engagement Mean) อยู่ที่ 4.16 โดยมีสัดส่วนพนักงานที่มีความผูกพันต่อองค์กรร้อยละ 51 ซึ่งสูงกว่าการสำรวจ Gallup World Poll ถึง 2 เท่า เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มีแผนสื่อสารผลการสำรวจให้พนักงานทราบ พร้อมทั้งวิเคราะห์และจัดทำแผนงานยกระดับความผูกพันของพนักงานให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในระดับองค์กรและระดับกลุ่มธุรกิจ มุ่งเน้นให้พนักงานทุกระดับมีความสุขในการทำงาน และเสริมสร้างความผูกพันต่อองค์กรในระยะยาว